นายประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2561 กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (Thailand Future Fund : TFFIF) ยื่นคำขออนุมัติและร่างหนังสือชี้ชวน (Filing) สำหรับการเพิ่มทุนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงานก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหน่วยลงทุนต่อประชาชนเป็นการทั่วไปครั้งแรก
การจัดตั้งTFFIF เป็นนโยบายที่สำคัญของรัฐบาลในการเป็นแหล่งเงินทุนทางเลือกในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ โดยการระดมทุนจากประชาชนทั่วไปผ่านกลไกของตลาดทุน เพื่อนำเงินที่ได้มาพัฒนาโครงการโครงสร้างพื้นฐานของประเทศได้เร็วยิ่งขึ้น อีกทั้งจะแบ่งเบาภาระการคลังของภาครัฐในการพึ่งพาเงินงบประมาณแผ่นดินและเงินกู้ ซึ่งมีจำกัด รวมทั้งไม่ต้องรอการสะสมรายได้ของรัฐวิสาหกิจ ซึ่ง TFFIF ยังเปิดโอกาสให้แก่ผู้มีเงินออมหรือผู้ลงทุนที่สนใจสามารถเข้าลงทุนในกิจการโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ
นายชาญวิทย์ นาคบุรี รองผู้อำนวยการ สคร. กล่าวว่า TFFIF จัดตั้งขึ้นภายใต้หลักเกณฑ์ของก.ล.ต.การลงทุนครั้งแรก TFFIF จะเข้าลงทุนในสิทธิในการรับรายได้ค่าผ่านทางพิเศษที่ 45% ของรายได้ค่าผ่านทางรวมที่จัดเก็บได้จากทางพิเศษที่เปิดให้บริการอยู่ในปัจจุบัน 2 เส้นทาง ได้แก่ ทางพิเศษฉลองรัชและทางพิเศษบูรพาวิถี รวมระยะทางทั้งสิ้น 83.2 กิโลเมตร เป็นระยะเวลา 30 ปีนับจากวันที่กองทุนเข้าทำสัญญากับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ทั้งนี้ กทพ. ยังคงเป็นผู้บริหารจัดการและเป็นเจ้าของทางพิเศษดังกล่าวอยู่
นายสุทธิศักดิ์ วรรธนวินิจ รองผู้ว่าการฝ่ายกฎหมายและกรรมสิทธิ์ที่ดิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการกทพ. กล่าวว่า สำหรับทางพิเศษฉลองรัชและทางพิเศษบูรพาวิถีที่ TFFIF เข้ามาลงทุนนั้น เป็นทางพิเศษที่มีความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาจราจรและช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชนได้เป็นอย่างดี โดยทางพิเศษฉลองรัชมีระยะทาง 28.2 กิโลเมตร เริ่มจากจุดเชื่อมต่อกับถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันออก (บริเวณจตุโชติ) มุ่งหน้าเข้าเมือง ผ่านถนนสุขาภิบาล 5 รามอินทรา ลาดพร้าว พระราม 9 สุขุมวิท 50 เชื่อมต่อกับทางพิเศษเฉลิมมหานครบริเวณอาจณรงค์
ส่วนทางพิเศษบูรพาวิถีมีระยะทาง 55 กิโลเมตร ถือว่าเป็นทางพิเศษยกระดับที่ยาวที่สุดในประเทศไทย มีจุดเชื่อมต่อปลายทางพิเศษเฉลิมมหานคร (บริเวณบางนา) มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออก ผ่านบางพลี บางบ่อ บางสมัคร ข้ามแม่น้ำบางปะกงไปสิ้นสุดบริเวณก่อนถึงทางเลี่ยงเมืองชลบุรี นับเป็นเส้นทางหลักในการขนส่งสินค้าจากท่าเรือกรุงเทพไปยังนิคมอุตสาหกรรมและท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง
เงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้กทพ. จะนำไปใช้ลงทุนพัฒนาทางพิเศษ 2 โครงการ ได้แก่ โครงการทางพิเศษพระราม 3 - ดาวคะนอง - วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก และโครงการทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ตอน N2 และ E-W Corridor ด้านตะวันออก เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรในย่านพระราม 3 และดาวคะนอง ซึ่งจะช่วยเชื่อมโยงโครงข่ายทางพิเศษให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย อีกทั้งเป็นการแบ่งเบาภาระทางการคลัง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี