นายวรวุฒิ อุ่นใจ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจค้าปลีกปีนี้ ผู้ประกอบการยังคงแข่งขันรุนแรง กลยุทธ์หลักที่ใช้ในการทำตลาดยังคงเน้นไปที่การขยายสาขาส่งผลให้กรุงเทพฯและหัวเมืองใหญ่ มีธุรกิจค้าปลีกเปิดให้บริการเต็มพื้นที่ ขณะที่เมืองรองก็เริ่มเต็มเช่นกันเนื่องจากผู้ประกอบการให้ความสนใจเข้าไปขยายสาขาจำนวนมาก
ส่งผลให้มูลค่าตลาดค้าปลีกทั้งระบบในไทยมีสูงถึง 3 ล้านล้านบาท เติบโตปีละ 3-4% ซึ่งยังมากกว่าตลาดออนไลน์ที่คาดว่าจะมีมูลค่า 200,000 ล้านบาท แต่ในแง่การเติบโตสูงถึงปีละ 30% แม้ว่ามูลค่าห่างกันมาก เพราะตลาดออนไลน์เติบโตแบบก้าวกระโดดด้วยเทคโนโลยีและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงคาดว่าอีก 5 ปีข้างหน้ามูลค่าตลาดออนไลน์จะเพิ่มสัดส่วนเป็น 10% ของตลาดค้าปลีกทั้งหมด ประกอบกับปัญหาของตลาดออฟไลน์หรือการเปิดสโตร์ลำบากมากขึ้นเพราะพื้นที่หัวเมืองหลักที่มีกำลังซื้อสูงเต็มแล้ว ส่วนระดับเมืองรองก็เริ่มเต็มเช่นกัน
ดังนั้นจึงอยากเสนอภาครัฐมีมาตรการสนับสนุนการจับจ่ายของนักท่องเที่ยว และเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน ด้วยการดึงดูดนักช็อปจากทั่วโลกมาเที่ยวและกำหนดยุทธศาสตร์ให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวและจับจ่ายใช้สอย เพราะเรามีความพร้อมด้านการท่องเที่ยวมากกว่าประเทศอื่นๆในอาเซียน
“เรามีแต่ฤดูกาลท่องเที่ยว แต่ยังไม่มีฤดูกาลช็อปปิ้ง จากข้อมูลของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระบุว่า นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยใช้จ่ายเงินวันละ 4,000 กว่าบาทต่อคน และใน 4,000 บาท ประกอบด้วย ค่าโรงแรม ค่าอาหาร ในจำนวนนี้มีค่าช็อปปิ้ง แค่ 1,200-1,500 บาท ดังนั้นเราต้องเพิ่มโอกาสให้นักท่องเที่ยวจับจ่ายใช้มากขึ้น”
“ทุกวันนี้ เราก็มีร้านค้าในลักษณะ VAT Free แต่ไม่เต็มรูปแบบ ร้านค้าในไทยถูกกำหนดให้เป็นร้านค้า VAT Refund for Tourist ผู้บริโภคจะต้องนำเอกสารไปขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มที่จุดให้บริการที่สนามบิน เมื่อได้รับคืนนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ใช้จ่ายในสนามบินมากนัก เพราะมีเวลาช็อปปิ้งน้อย แต่หากเราต้องการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวก็สามารถกำหนดให้ร้านค้าที่เข้าร่วมรายการ VAT Free Shop ให้ขายสินค้าในราคาไม่รวม VAT หรือ ถ้าขายในราคารวม VAT นักท่องเที่ยวก็สามารถขอคืน VAT ได้ในวันที่ซื้อ ณ จุดขายทันที”
หากภาครัฐเพิ่มมาตรการส่งเสริมให้เปิดร้านค้าปลอดอากรและภาษีมูลค่าเพิ่มในเมือง และมีร้านค้าปลอดภาษี ระบบที่ร้านค้าคืนเงินภาษีให้กับนักท่องเที่ยวได้ทันที ณ จุดขายก็จะเป็นแรงจูงใจนักท่องเที่ยวช็อปปิ้งเพิ่มขึ้นจะทำให้ไทยเป็นจุดหมายที่มีศักยภาพไม่แพ้ ฮ่องกง หรือ สิงคโปร์ อีกทั้งยังทำให้หลายภาคธุรกิจ ทั้งค้าปลีก ธุรกิจบริการ โรงแรม สปา ขนส่งมวลชน ร้านอาหาร และธุรกิจอื่นๆ มีรายได้เพิ่มขึ้นช่วยกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศซึ่งจะมีส่วนผลักดันให้อุตสาหกรรมค้าปลีกเติบโตโดยเฉลี่ยถึง 9.2%
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี