แหล่งข่าวจาก บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบสเปกของอุปกรณ์หลัก ที่ใช้ในโครงการวางท่อส่งก๊าซธรรมชาติบนบก เส้นที่ 5 (จ.ระยอง - จ.นนทบุรี) รวมระยะทาง 415 กม. โดยเฉพาะวาล์ว อุปกรณ์สำคัญในการควบคุมระบบเปิด-ปิดของท่อส่งก๊าซฯ ซึ่งผู้รับเหมาต่างชาติที่ชนะการประมูลในโครงการย่อยคือ บริษัทผู้รับเหมารายใหญ่จากประเทศจีน และได้จัดส่งวาล์วดังกล่าวมาให้ปตท.ตรวจสอบ เบื้องต้นพบว่ามีสเปกไม่ตรงตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ในทีโออาร์

เนื่องจากวาล์วที่ผู้รับเหมาจีนส่งมานั้น เป็นสเปกที่ไม่มีการเชื่อมต่อหัววาล์วเพื่อป้องกันการรั่วไหลตามมาตรฐานสากล จึงทำให้อาจเป็นความเสี่ยงต่อการรั่วซึมของท่อก๊าซได้ในอนาคตอันใกล้ จำเป็นที่ฝ่ายบริหาร ปตท. จะต้องลงมาตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้โดยเร็วว่าเป็นจริงหรือไม่ ก่อนจะอนุมัติผ่านให้กลุ่มทุนจีนได้นำสเปกของวาล์วที่ต่ำไปใช้ในโครงการนี้ พร้อมกันนี้ ต้องสั่งการให้ผู้รับเหมาต่างชาติกลุ่มนี้ต้องปรับเปลี่ยนสเปกของวาล์วให้ตรงกับที่กำหนดไว้ในทีโออาร์ เพื่อป้องกันปัญหาตามมาในอนาคต

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า หากเกิดปัญหาก๊าซรั่วซึม ไม่เพียงจะสร้างปัญหาต่อสุขภาพของผู้คนในชุมชนที่เส้นทางท่อวางก๊าซพาดผ่าน แต่ยังเสี่ยงต่อการระเบิดของท่อส่งก๊าซที่ความยาวหลายร้อยกิโลเมตร ซึ่งแน่นอนว่า นอกจากจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของ ปตท. และภาพลักษณ์ของไทยแล้ว ยังอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของชาติ ในสายตาของนักลงทุนต่างชาติอีกด้วย

อนึ่ง โครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติบนบกเส้นที่ 5 มีระยะทาง 415 กิโลเมตร มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มความมั่นคงทางด้านพลังงาน และเพิ่มกำลังการส่งก๊าซธรรมชาติจากฝั่งตะวันออกไปยังโครงข่ายระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติฝั่งตะวันตก จัดส่งก๊าซธรรมชาติ ให้แก่ โรงไฟฟ้าบางปะกง โรงไฟฟ้าวังน้อย โรงไฟฟ้าพระนครเหนือ และโรงไฟฟ้าพระนครใต้ เพื่อรองรับความต้องการไฟฟ้าในอนาคต โดยมีงบประมาณการลงทุนทั้งโครงการราว 9.65 หมื่นล้านบาท ปตท.คาดว่าโครงการดังกล่าวจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการได้ภายในปี 2563-2564