เปิดแผนพัฒนาสนามบินภูมิภาค 20ปี อัพเกรด4ท่าอากาศยานอีสาน
14 ก.ย.61 นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคม เปิดภายหลังการเป็นประธานเปิดงาน “Airports For All : กรมท่าอากาศยาน มุ่งมั่น ก้าวไกล เพื่อไทยทุกคน” และปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “คมนาคมกับอนาคตการขนส่งทางอากาศของไทย” ว่าแผนการลงทุนพัฒนาท่าอากาศยานมีแผนพัฒนาระยะ 20 ปี โดยแผนการพัฒนาท่าอากาศยานในระยะแรก แบ่งเป็นภาคใต้ มีทั้งหมด 7 แห่ง วงเงินลงทุน 20,027 ล้านบาท ได้แก่ หัวหิน สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช กระบี่ ตรัง นราธิวาส และ เบตง , ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีทั้งหมด 7 แห่ง วงเงินลงทุน 4,692 ล้านบาท ได้แก่ เลย สกลนคร อุดรธานี อุบลราชธานี ร้อยเอ็ด ขอนแก่น และบุรีรัมย์ , ภาคเหนือมีทั้งหมด 3 แห่ง วงเงิน 2,529 ล้านบาท ได้แก่ ลำปาง แพร่ และแม่สอด
ส่วนของระยะที่ 2 (ปี2566-2570) จะมีการลงทุนเพื่อขยายสนามบินที่ส่วนใหญ่จะเป็นทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ วงเงินลงทุน 5,158 ล้านบาท ได้แก่ สกลนคร อุดรธานี เลย อุบลราชธานี ร้อยเอ็ด ,ภาคเหนือ วงเงินลงทุน 732 ล้านบาท ได้แก่ ปาย แพร่ และภาคใต้ วงเงินลงทุน 1,369 ล้านบาท ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช
นอกจากนี้ ทย. ยังมีแผนลงทุนเพื่อรองรับตลาดการบินและส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยเฉพาะการเชื่อมต่อประเทศเพื่อนบ้านอาเซียนเพื่อดึงนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพจากกลุ่มประเทศ BIMSTEC ประกอบด้วย บังคลาเทศ อินเดีย ศรีลังกา เป็นต้น ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพจับจ่ายสูง อีกทั้งตัวเลขจีดีพีในกลุ่มชาติดังกล่าวยังเติบโตอย่างต่อเนื่องอีกด้วย โดยมองว่าสนามบินใต้นั้นมีศักยภาพอย่างมากปัจจุบันรองรับผู้โดยสารมากถึง 50% ของปริมาณผู้โดยสารทั้งหมดปีละ 10 ล้านคน ซึ่งในอนาคตสนามบินภูมิภาคทุกแห่งจะถูกเชื่อมด้วยระบบขนส่งที่ครอบคลุมทั้งรถไฟความเร็วสูง รถไฟทางคู่และเส้นทางเดินเรือ
“ทย.ก็มีแผนในการพัฒนาสนามบินเพื่อรองรับเครื่องบินขนาดเล็กด้วย ในส่วนของการเสนอให้มีการลงทุนรูปแบบ PPP ในการบริหารสนามบินนั้น หากทางเอกชนมีความสามารถก็เสนอแผนกับ ทย.ในการบริหารสนามบินในลักษณะ PPP ได้ ยังมีนโยบายที่จะแบ่งพื้นที่ 30% ของสนามบินให้กับทางวิสาหกิจชุมชนเพื่อเป็นการให้บริการประชาชนในพื้นที่สามารถเอาสินค้าในชุมชนมาขายได้ สำหรับปัจจุบันภูมิภาคอาเซียนมีปริมาณการบินเติบโตมากที่สุดในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิคคิดเป็นค่าเฉลี่ยปีละ 6.6% และคาดการณ์ว่าภายใน 20 ปีจะเติบโตมากกว่า 12% ต่อปีหรือเพิ่มขึ้น 1 เท่าตัว” นายไพรินทร์ กล่าว
ด้านนายดรุณ แสงฉาย อธิบดีกรมท่าอากาศยาน(ทย.) กล่าวว่า ทย.มีแผนพัฒนาสนามบินเพื่อเชื่อมโยงการเดินทางภูมิภาคระยะเวลา 10 ปี วงเงินรวม 3.45 หมื่นล้านบาท (2561 – 2570) ประมาณ 34,507 ล้านบาท แบ่งเป็น ปี 2561 – 2565 ปรับปรุงท่าอากาศยาน 17 โครงการก่อสร้างใหม่ 1 ท่าอากาศยาน วงเงินลงทุน 27,248 ล้านบาท ปี 2566 – 2570 ปรับปรุงท่าอากาศยาน 8 โครงการวงเงินลงทุน 7,259 ล้านบาท คาดว่าจะเพิ่มปริมาณผู้โดยสารได้ 150% จากเดิม 20 ล้านคนเป็น 50 ล้านคนในปี 2580 เช่นเดียวกับเที่ยวบินที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 55,000 เที่ยวบินต่อเดือนจากปัจจุบัน 21,480 เที่ยวบินต่อเดือน
ทั้งนี้ ทางภาคเหนือจะมีการพัฒนาสนามบินลำปาง สนามบินแพร่ สนามบินน่านและสนามบินแม่ฮ่องสอนเป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทาง CLMV โดยใช้สนามบินลำปางเป็นศูนย์กลางการบินเชื่อมการเดินทาง สปป.ลาว-คุนหมิง และใช้สนามบินตากเป็นจุดเชื่อมต่อการขนส่งสินค้าทางอากาศสนับสนุนเส้นทางการค้าแนวระเบียงภาคตะวันออก-ภาคตะวันตก (EWEC) โดยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะใช้ 4 สนามบินหลักได้แก่ อุบลราชธานี นครพนม สกลนคร และเลย เป็นประตูการค้า CLMB เชื่อมเขตเศรษฐกิจพิเศษ(SEZ) นครพนมและมุกดาหาร โดยใช้สนามบินบุรีรัมย์เป็นฮับท่องเที่ยวเชิงกีฬา
ส่วนด้านภาคใต้นั้นจะใช้สนามบินชุมพร สนามบินสุราษฎร์ธานี สนามบินระนอง สนามบินกระบี่และสนามบินตรัง รองรับการดึงดูดนักท่องเที่ยว BIMSTEC ที่จะบินเข้ามาจากเส้นทางมหาสุมรอินเดียและทะเลอันดามันควบคู่ไปกับการสนับสนุนเส้นทางท่องเที่ยวตามแนวชายฝั่งตะวันตกหรือโครงการไทยแลนด์ริเวียร่า
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี