นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ในวันที่ 24 กันยายน 2561 ภาคเอกชนจากสหรัฐ อเมริกากว่า 300 ราย จะร่วมคณะมากับ หอการค้าสหรัฐ เดินทางมาประชุมร่วมกับ หอการค้าไทย ที่โรงแรมดุสิตธานี และจะเข้าพบ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ด้วย สำหรับนักธุรกิจสหรัฐฯพบว่าหลายรายที่เข้าไปลงทุนในจีน ก็มีความเป็นไปได้ที่จะพิจารณาเข้ามาลงทุนในไทยด้วยเพิ่มในฐานะประเทศที่เป็นศูนย์กลางของอาเซียน เพื่อจะยังคงรักษาตลาดจีนไว้
นอกจากนี้ จากการที่ไทยกำลังเดินหน้าเข้าสู่การเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยและไทยก็จะเป็นประธานอาเซียนปีหน้า ทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนเพิ่มขึ้น และจะยิ่งเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจไทยในภาพรวม
นางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นหอการไทย ซึ่งผลสำรวจจากสมาชิกหอการค้าทั่วประเทศ พบว่า ค่าดัชนีอยู่ที่ระดับ 49.8 ถือว่าสูงที่สุดในรอบ 8 เดือน เป็นผลมาจากการท่องเที่ยวขยายตัวดี ส่งผลให้ภาคบริการปรับตัวดีขึ้น และราคาพืชผลทางการเกษตรหลายรายการ ปรับตัวดีขึ้นแต่ยังไม่เต็มที่ ประกอบกับตัวเลขการส่งออกของไทยเพิ่มขึ้นทุกรายการ ขณะที่ดอกเบี้ยคงที่ และรัฐลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งใกล้เข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยว ทำให้ภาคธุรกิจโดยรวมต่างมั่นใจสถานการณ์เศรษฐกิจในอนาคตอยู่ในช่วงขาขึ้น
อย่างไรก็ตาม สมาชิกหอการค้าไทยส่วนใหญ่แสดงความกังวลเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ยังกระจุกตัว โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และภาคกลาง ที่ได้อานิสงส์จากการขยายตัวของเศรษฐกิจค่อนข้างน้อย และยังต้องเผชิญปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ รวมทั้งยังถูกซ้ำเติมจากปัญหาอุทกภัย และธนาคารยังเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ ดังนั้น อยากให้รัฐบาลดูแลบริหารจัดการให้อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจแต่ละภูมิภาคกระจายสู่ทุกภูมิภาคอย่างเป็นรูปธรรมอย่างแท้จริง
ส่วนสงครามการค้า หรือ Trade War ที่ดูอาจจะปะทุรอบใหม่ โดยภาคเอกชนมองว่าน่าจะส่งผลดีต่อไทยทั้งด้านการส่งออกและการลงทุน เชื่อการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นจะทำให้นักลงทุนมั่นใจเสถียรภาพเศรษฐกิจไทยส่งผลให้เข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้น กรณีที่สหรัฐกับจีนเตรียมทำสงครามการค้าระหว่างกันรอบใหม่ด้วยการประกาศจะเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มขึ้นอีกนั้น โดยรวมไม่อยากให้ทั้ง 2 ฝ่าย มีปัญหา แต่ที่ผ่านมาแม้จะมีความขัดแย้งระหว่างสหรัฐกับจีน การส่งออกไทยก็ยังขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยส่วนตัวมองว่าทั้ง 2 ฝ่ายขัดแย้งกันไทยจะยิ่งได้อานิสงส์เชิงบวกทั้งด้านการส่งออกและการลงทุน
“สงครามการค้าที่กำลังจะปะทุขึ้นรอบใหม่ โดยรวมคิดว่าจะไม่กระทบการส่งออกของไทย แต่ในทางตรงกันข้ามจะยิ่งเป็นโอกาสของไทย เพราะจะทำให้มีการนำเข้าสินค้าจากไทยมากขึ้น”นางเสาวนีย์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี