ที่ อาคารสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงค์ เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2561 การรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) เป็นประธานประชุมชี้แจงโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง - สุวรรณภูมิ - อู่ตะเภา) ครั้งที่ 2 เพื่อให้เอกชนผู้ซื้อซองได้สอบถามข้อมูลและข้อสงสัยต่อโครงการอย่างเป็นทางการ
นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่ง ผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท. กล่าวว่า โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน ถือเป็นหนึ่งในโครงการเร่งด่วนของรัฐบาล เพื่อขับเคลื่อนโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) และเชื่อมโยงเดินทางของผู้โดยสาร 3 ท่าอากาศยานเข้าสู่พื้นที่เศรษฐกิจและพื้นที่ท่องเที่ยวให้เดินทางถึงกันได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
โดยที่ผ่านมา ร.ฟ.ท. ได้จัดการประชุมชี้แจงโครงการครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2561 หลังจากนั้นจึงเปิดโอกาสให้ผู้ซื้อเอกสารได้ส่งคำถาม หรือข้อสงสัยต่างๆ เข้ามา เพื่อรวบรวม ประเด็นทั้งหมด และนำมาชี้แจงให้ความกระจ่าง โดยมีประเด็นที่หลากหลาย ทั้งด้านการเงินการลงทุน ร่างสัญญาร่วมลงทุน การก่อสร้าง การเดินรถ รวมไปถึงข้อกำหนดของ ร.ฟ.ท. ในด้านต่างๆ เช่น การพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานี งานโยธา งานระบบรถไฟ และเทคโนโลยีต่างๆ
“ในการเปิดการประชุมชี้แจงโครงการพบว่ามีผู้สนใจสอบถามข้อมูลมาถึง 668 คำถาม โดยมีประเด็นทั้งด้านการเงินการลงทุน การก่อสร้าง การเดินรถ การพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานี งานโยธา งานระบบรถไฟ และเทคโนโลยีต่างๆ โดยที่ผ่านมา ร.ฟ.ท.ได้ตอบคำถามไปแล้วชุดแรก 314 คำถาม และหลังจากการประชุมครั้งนี้แล้วทางร.ฟ.ท.จะยังเปิดให้ผู้ซื้อเอกสารส่งข้อเสนอแนะ คำถามข้อมูลรายละเอียดที่เกี่ยวข้องจนถึงวันที่ 9 ตุลาคม” นายวรวุฒิ กล่าวว่า
โดยภายหลังนี้ ร.ฟ.ท. ยังจะเปิดให้ผู้ซื้อเอกสารส่งข้อเสนอแนะ หรือคำถามเกี่ยวกับเอกสารการคัดเลือกเอกชนตลอดจนตรวจสอบข้อมูลหรือรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับโครงการ ได้จนถึงวันที่ 9 ตุลาคม 2561 และให้เอกชนยื่นข้อเสนอในวันจันทร์ที่ 12 พฤศจิกายน 2561 เวลา 09.00-15.00 น. คาดว่าช่วงต้นปี 2562 จะลงนามในสัญญาการก่อสร้างได้
สำหรับกรณีที่มีเอกชนมองว่าระยะเวลาก่อสร้างโครงการระยะเวลา 5 ปี จะน้อยเกินไปหากติดปัญหาเวนคืนนั้น ขณะนี้ทางคณะทำงานได้ลงสำรวจพื้นที่แล้วและได้มีการเสนอออกพระราชกฤษฎีกาเวนคืนพื้นที่(พ.ร.ฎ.) ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างกฤษฎีกาพิจารณา คาดว่าจะสามารถจบเรื่องจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินได้ภายใน 1-2 ปี โดยในส่วนขั้นตอนการมอบพื้นที่สถานีมักกะสันให้เอกชนนั้นนับจากวันลงนามสัญญาจะมอบได้เลย 100 ไร่ ส่วนพื้นที่อีก 50 ไร่บริเวณพวงรางโรงซ่อมบำรุงมักกะสันนั้นจะส่งมอบภายใน 5 ปี เนื่องจากต้องรอทุนประมาณ 100 ล้านบาท เพื่อรื้อย้ายพวงรางและเปลี่ยนแนวเส้นทางรางเดิม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี