น้ำมันผันผวน
ลุ้นดีเซลปรับทะลุ30บ.
‘ศิริ’ใช้กองทุนช่วย
รับมือได้แค่ปลายปี
เดินหน้าเปิดประมูล
แหล่งบงกช-เอราวัณ
รมว.พลังงาน เผยราคาน้ำมันผันผวนพร้อมดึงเงินกองทุนรักษาระดับราคาถึงปลายปี หากราคาน้ำมันปรับทะลุ 90-100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล อาจต้องปรับราคาดีเซลทะลุ 30 บาท/ลิตร ด้าน“กุลิศ”ปลัด ก.พลังงานคนใหม่ เดินหน้าประมูลแหล่งผลิตปิโตรเลียมเอราวัณ-บงกช เป็นงานเร่งด่วน ยืนยันโปร่งใส
เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน เปิดเผยในโอกาสร่วมงานวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงพลังงาน ประจำปี 2561 ว่าขณะนี้ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกอ้างอิงตลาดน้ำมันเบรนท์ปรับขึ้นไปสูงกว่า 85 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 60 สตางค์ต่อลิตร จากเพดานสูงสุดที่กำหนดไว้ไม่เกิน 1 บาทต่อลิตร เพื่อรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร
เบื้องต้นประเมินแนวโน้มราคาน้ำมันดิบตลาดโลกระยะสั้นจะเคลื่อนไหวอยู่ในระดับนี้ไปจนถึงปลายต้นปีหน้า และหากเป็นไปตามนักวิเคราะห์ประเมินมีโอกาสที่ราคาจะปรับขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 90-100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากมีความกังวลต่อมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านของสหรัฐที่จะมีผลเป็นรูปแบบในวันที่ 4 พ.ย.นี้ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิดว่าจะส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันช่วงก่อนและหลังวันที่ 4 พ.ย.นี้ เพราะเป็นช่วงที่อ่อนไหวที่สุด
“ขณะนี้สถานะกองทุนฯมีเงินประมาณ 26,000 ล้านบาท ซึ่งตั้งวงเงินไว้สำหรับดูแลรักษาระดับราคาน้ำมันดีเซลให้มีเสถียรภาพ 6,000 ล้านบาท คาดว่าสามารถรองรับสถานการณ์ได้ไปจนถึงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้าขึ้นอยู่กับราคาตลาดโลก แต่หากราคาปรับขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 90-100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ก็ได้มอบหมายสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) พิจารณาแนวทางการใช้กองทุนฯ เข้าไปดูแลเพิ่มเติม และอาจมีความจำเป็นต้องขึ้นราคาบ้างก็ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในสถานการณ์ พร้อมจะชี้แจงทำความเข้าใจต่อสังคมด้วย”นายศิริกล่าว
รมว.พลังงาน ยืนยันว่า จะดูแลราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในประเทศไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร โดยใช้เงินกองทุนฯ รักษาระดับราคาให้มีเสถียรภาพ ประกอบกับขอความร่วมมือผู้ค้าน้ำมันมาตรา 7 คิดค่าการตลาดต่ำกว่าปกติอยู่ที่ 1.20 บาทต่อลิตร จากที่กำหนดไว้ 1.50 บาทต่อลิตร อีกทั้งยังขอให้ผู้ประกอบการขนส่งหันมาให้น้ำมันดีเซลเกรดพิเศษ หรือบี 20 มากขึ้น เพราะมีราคาถูกกว่าน้ำมันดีเซลลิตรละ 3 บาท ไม่ส่งผลกระทบต่อค่าขนส่งที่ส่งผ่านต้นทุนไปยังราคาสินค้า จึงไม่มีความจำเป็นต้องปรับราคาสินค้าขึ้นแต่อย่างใด
นอกจากนี้ เนื่องในโอกาสที่กระทรวงพลังงานก้าวเข้าสู่ปีที่ 17 ได้มอบนโยบายแก่ข้าราชการในสังกัดกระทรวงพลังงานทำงานเพื่อประชาชน ปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด มีวินัย เปิดเผย โปร่งใส มีน้ำใจ ไม่รับของกำนัล และใช้หลักวิชาการเป็นพื้นฐานสำคัญในการทำงาน เพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวมและสังคม และเน้นเรื่องความมั่นคงด้านพลังงานเป็นรากฐานในการพัฒนาเศรษฐกิจ
ด้านนายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงานคนใหม่ กล่าวว่าเบื้องต้น รมว.พลังงานได้มอบหมายให้ผลักดันนโยบายต่างๆ ให้เกิดผลในทางปฏิบัติ ซึ่งส่วนตัวพร้อมจะประสานทุกนโยบายเพื่อผลักดันงานด้านต่างๆ ให้เกิดผลสำเร็จตามวาระ โดยภารกิจเร่งด่วนที่อยู่ระหว่างดำเนินการ คือ การเปิดให้สิทธิเอกชนสำรวจและผลิตปิโตรเลียมแหล่งเอราวัณ และแหล่งบงกช ให้ทุกกระบวนการเป็นไปด้วยความโปร่งใส โดยยึดหลักเพื่อผลประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก
ส่วนเรื่องกองทุนส่งเสริมเพื่อการอนุรักษ์พลังงานปี 2562 จะมีการทบทวนอีกครั้ง หลังจากทางอนุกรรมการกลั่นกรองที่มีนายธรรมยศ ศรีช่วย อดีตปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน อนุมติโครงการไว้ กว่า 7 พันล้านบาท โดยจะใช้หลักเกณฑ์การพิจารณาที่สอดคล้องกับการปฏิรูปพลังงาน โดยกรอบวงเงินกองทุนอนุรักษ์ปี 62 นั้น ได้รับอนุมัติมาประมาณ 10,448 ล้านบาท และมีคำขอสูงถึง 30,000 ล้านบาท
นายกุลิศ กล่าวว่า ความคืบหน้าเรื่องการสอบสวนกรณีเรื่องการใช้งบกองทุนอนุรักษ์ ขณะนี้คณะกรรมการตรวจสอบ ที่นางเปรมฤทัย วินัยแพทย์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เป็นประธาน ได้ขอเลื่อนระยะเวลาทำงานไปก่อน ส่วนการแต่งตั้งผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) คนใหม่นั้น จะต้องตั้งคณะกรรมการสรรหามาพิจารณา ซึ่งจะต้องให้ได้บุคคลที่เหมาะสมมาดำรงตำแหน่ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี