เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2561 นายสมคิดจาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมติดตามการดำเนินโครงการพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐาน ของกระทรวงคมนาคม โดยมี นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม ผู้บริหารกระทรวง และหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดเข้าร่วมการประชุม
โดยนายสมคิดได้กำชับให้กระทรวงคมนาคมเร่งรัดโครงการลงทุนสำคัญ โดยเฉพาะโครงการเกี่ยวกับระบบรางไม่ว่ารถไฟฟ้าภายในเมืองได้แก่ รถไฟฟ้าสีส้มตะวันตก ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-บางขุนนนท์ และสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ ขอให้เร่งเข้าสู่การพิจารณาของ คณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่อเดินหน้าก่อสร้างภายในปีนี้
ด้านการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) การพัฒนาระบบรางภูมิภาคโดยเฉพาะโครงการรถไฟฟ้าจังหวัดภูเก็ตถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ และปัจจุบันมีปัญหาจราจรติดขัด โดยขอให้เสนอแผนการก่อสร้างขอความเห็นชอบจาก ครม.ภายในรัฐบาลนี้ นอกจากนี้ ยังมีโครงการสำคัญที่เร่งรัดไม่ว่าโครงการรถไฟเทียบระหว่างจังหวัดและการพัฒนาถนนของกรมทางหลวงชนบทที่มีส่วนสนับสนุนท่องเที่ยวเมืองรอง โดยขอให้ทำแผนการพัฒนาเกิดความชัดเจนทุกจังหวัด
ส่วนการบินไทย ขอให้กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ปรับแผนจัดหาเครื่องบินใหม่23 ลำ ฝ่ายบริหารระบุว่าจะมีการทำแผนภาพรวมใหม่ เพื่อเสนอสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ภายใน 45 วัน แต่รองนายกรัฐมนตรีกำชับให้เสร็จภายใน 30 วัน และนำผู้บริหาร สศช.ที่อยู่ในบอร์ดการบินไทยร่วมทำแผนจัดซื้อ เพื่อไม่ให้โครงการถูกตีกลับจากที่ประชุม สศช.อีก และให้ดูการบริหารจัดการเป็นไทยกรุ๊ปโดยให้การบินไทยดูแลไทยสมายล์ นกแอร์เข้ามาบริหารจัดการให้พัฒนาไปด้วยกัน
โดยนายสมคิดได้ย้ำว่าอยากให้ทุกหน่วยงานเร่งทำงาน แม้จะเป็นช่วงใกล้เลือกตั้งก็ไม่ควรล่าช้า ไม่ต้องรอรัฐบาลใหม่ให้นโยบาย และควรแบ่งกลุ่มย่อยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเดินหน้าสนับสนุนโครงการสำคัญ เช่น ท่องเที่ยวเมืองรอง และไทยแลนด์ริเวียร่า
ด้านนายอาคมกล่าวว่าเดือนตุลาคมนี้กระทรวงคมนาคมเตรียมเสนอโครงการให้ครม.เพื่อขออนุมัติ 5 โครงการ ได้แก่1) โครงการท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 วงเงิน 110,000 แสนล้านบาท 2) ศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน (MRO) สนามบินอู่ตะเภา วงเงิน10,000 ล้านบาท 3) โครงการทางหลวงพิเศษ(มอเตอร์เวย์) นครปฐม-ชะอำ วงเงิน 80,000ล้านบาท 4) โครงการศูนย์การขนส่งชายแดน จ.นครพนม วงเงิน 1,000 ล้านบาท และ5) ศูนย์เปลี่ยนรูปแบบการขนส่งสินค้า เชียงของจ.เชียงราย วงเงิน 2,300 ล้านบาท
ส่วนเดือนพฤศจิกายนนี้เตรียมที่จะเสนอโครงการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงส่วนต่อขยาย 1)รถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อนส่วนต่อขยาย ช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช และช่วงตลิ่งชัน-ศาลายาและ 2) ส่วนต่อขยายสายสีแดงเข้ม ช่วงรังสิต-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต วงเงินรวม 24,000 ล้านบาท
เดือนธันวาคมยังมีอีก 5 โครงการ ได้แก่ 1) รถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี มูลค่า 36,000 ล้านบาท2) รถไฟทางคู่ ช่วงหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ มูลค่า 8,000 ล้านบาท, 3) รถไฟทางคู่ ช่วงบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม มูลค่า 60,000 ล้านบาท, 4) รถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น-หนองคาย มูลค่า 26,000 ล้านบาท 5)โครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารแห่งที่ 2 ในสนามบินสุวรรณภูมิ 42,000 ล้านบาทและ 6) โครงการก่อสร้างทางวิ่ง (Runway) แห่งที่ 3 ในสนามบินสุวรรณภูมิ 20,000ล้านบาท
รวมถึงในช่วงต้นปี 2562 จะมีเสนอ ครม.อีก 5 โครงการ ได้แก่ 1) โครงการรถไฟทางคู่ ช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัย 56,000 ล้านบาท2) รถไฟทางคู่ ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี มูลค่า 23,000 ล้านบาท 3) รถไฟทางคู่ ช่วงสุราษฎร์ธานี-หาดใหญ่-สงขลา มูลค่า 57,000 ล้านบาท 4) รถไฟทางคู่ ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ มูลค่า 60,000 ล้านบาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี