นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลังเปิดเผยว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่10 ตุลาคม 2561 มีมติเห็นชอบหลักการของร่างพระราชบัญญัติการกำกับดูแลผู้ให้บริการทางการเงิน พ.ศ. .... (ร่าง พ.ร.บ.ฯ) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เนื่องจากปัจจุบันมีผู้ให้บริการทางการเงินบางประเภทซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจแต่ยังไม่มีหน่วยงานภาครัฐกำกับดูแลอย่างชัดเจน ทำให้การประกอบธุรกิจขาดแนวปฏิบัติที่เป็นมาตรฐานและเป็นธรรม ดังนั้นเพื่อประโยชน์ในการกำกับดูแลผู้ให้บริการทางการเงินอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และเป็นการคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน รวมถึงส่งเสริมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินของประเทศ จึงจำเป็นต้องออกกฎหมายเพื่อรองรับการกำกับดูแลผู้ให้บริการทางการเงินดังกล่าว
ร่าง พ.ร.บ.ฯ ประกอบด้วยบทบัญญัติ3 หมวด 74 มาตรา โดยมีรมว.คลังเป็นผู้รักษาการ การกำกับจะดำเนินการโดยคณะกรรมการกำกับดูแลผู้ให้บริการทางการเงินที่มีปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธาน โดยมีการจัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการกำกับดูแลผู้ให้บริการทางการเงินมีฐานะเป็นหน่วยงานของรัฐที่ไม่เป็นส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ ทำหน้าที่เป็นหน่วยปฏิบัติในการกำกับดูแลการประกอบธุรกิจของผู้ให้บริการทางการเงินให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการที่คณะกรรมการกำหนด
ในระยะเริ่มแรกจะมีการกำกับดูแลการประกอบธุรกิจของผู้ให้บริการทางการเงินรวม 5 ประเภท ได้แก่ 1.ผู้ให้บริการทางการเงินประเภทให้สินเชื่อ ได้แก่ สินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ (สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์) และสินเชื่อที่มีการรับสมุดคู่มือจดทะเบียนรถเป็นประกันการชำระหนี้ (สินเชื่อทะเบียนรถ) โดยผู้ให้บริการกลุ่มนี้จะต้องได้รับใบอนุญาตในการประกอบธุรกิจจากสำนักงาน
2.ผู้ให้บริการทางการเงินประเภทที่มีลักษณะคล้ายการให้สินเชื่อ ได้แก่ การให้เช่าซื้อ การให้เช่าแบบลีสซิ่ง และแฟคตอริ่งเป็นทางค้าปกติ โดยผู้ให้บริการกลุ่มนี้จะต้องขึ้นทะเบียนในการประกอบธุรกิจกับสำนักงาน
อย่างไรก็ดี ผู้ให้บริการทางการเงินข้างต้น ไม่รวมถึงการให้บริการทางการเงินข้างต้นที่ดำเนินการโดยสถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจสถาบันการเงิน ธนาคารหรือสถาบันการเงินที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้ง บริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของสถาบันการเงิน และผู้ให้บริการทางการเงินที่ให้บริการทางการเงินแก่บริษัทในเครือเดียวกันกับผู้ให้บริการทางการเงินเป็นการเฉพาะ ทั้งนี้ รมว.คลังอาจประกาศกำหนดให้ผู้ให้บริการทางการเงินซึ่งมีกฎหมายกำกับดูแลเป็นการเฉพาะอยู่แล้วไม่อยู่ภายใต้บังคับของพระราชบัญญัตินี้ก็ได้เพื่อลดความซ้ำซ้อนในการกำกับดูแล และในอนาคตหากมีความจำเป็นก็สามารถเพิ่มประเภทของผู้ให้บริการทางเงินอื่น ๆ เข้ามาอยู่ในกำกับดูแลของร่าง พ.ร.บ.ฯ ได้ โดยตราเป็นพระราชกฤษฎีกาเพิ่มเติม
การออกกฎหมายดังกล่าว กระทรวงการคลังมุ่งเน้นการกำกับดูแลด้านการให้บริการให้มีมาตรฐานและมีการปฏิบัติต่อผู้บริโภคอย่างเป็นธรรม (Market Conduct) ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพการประกอบธุรกิจของผู้ให้บริการทางการเงินดังกล่าว ทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินทั้ง 5 ประเภทได้อย่างมั่นใจ รวมทั้งจะช่วยให้ภาครัฐมีข้อมูลภาพรวมเกี่ยวกับการให้บริการทางการเงินประเภทต่างๆ อย่างเพียงพอเพื่อช่วยส่งเสริมการเข้าถึงบริการทางการเงินที่ทั่วถึงและเป็นธรรมของประชาชนต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี