น.ส.นฤภัทร อมรโฆษิต เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติเป็นเอกฉันท์ ไม่อนุมัติคำขอเพื่อรวมกิจการ โดยบมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ หรือ GPSC (จีพีเอสซี) เข้าซื้อหุ้นส่วนใหญ่ของ บมจ.โกลว์ พลังงาน เนื่องจากการดำเนินการดังกล่าว กกพ.มองว่าส่งผลต่อการลดการแข่งขันในการให้บริการพลังงาน ซึ่งขัดต่อเจตนารมณ์ของกฎหมายตาม พระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)การประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. 2550 และการพิจารณาของ กกพ. ยังเป็นการพิจารณาที่ตระหนักถึง การสร้างบรรทัดฐานในการพิจารณาในระยะยาวด้วย
“กกพ. มีมติเป็นเอกฉันท์ และไม่อนุญาตให้ จีพีเอสซี ในฐานะผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าได้รับอนุญาต ซึ่งก่อนหน้าได้ยื่นขออนุญาตต่อ กกพ. เพื่อขอเข้ารวมกิจการกับ โกลว์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้ารับอนุญาตภายใต้เงื่อนไขของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และหลังจาก กกพ. พิจารณาแล้วพบว่า การรวมกิจการดังกล่าวส่งผลให้พื้นที่อุตสาหกรรมในบางพื้นที่ จะมีบริษัทที่มีอำนาจการบริหารกิจการไฟฟ้าลดลงเหลือเพียงรายเดียว จึงเป็นการลดการแข่งขัน ถึงแม้ว่าจะอยู่ในพื้นที่การให้บริการไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ก็ตาม และ กกพ.เชื่อมั่นว่า มติที่เกิดขึ้นจะเป็นการสร้างบรรทัดฐานที่ดีและถูกต้องในระยาวด้วย” นางสาวนฤภัทร กล่าว
ทั้งนี้ภายใต้พระราชบัญญัติการประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. 2550 มาตรา 60 และระเบียบที่เกี่ยวข้อง กำหนดให้ กกพ. มีอำนาจในการออกระเบียบ กำหนดหลักเกณฑ์ เพื่อมิให้มีการกระทำการใดๆ อันเป็นการผูกขาด ลดการแข่งขัน หรือจำกัดการแข่งขันในการให้บริการพลังงาน และกรณีของ จีพีเอสซี ซึ่งเข้าซื้อหุ้นส่วนใหญ่ของโกลว์ จึงเป็นการรวมกิจการ เข้าเงื่อนไขของการที่ผู้รับใบอนุญาตรายหนึ่งเข้าครอบงำผู้รับอนุญาตอีก รายหนึ่งซึ่งไม่สามารถทำได้ เว้นแต่จะขออนุญาตต่อ กกพ. เพื่อให้พิจารณาเหตุผล และความจำเป็นที่เพียงพอ หรือเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ หรือผู้ใช้พลังงาน
สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ กกพ. จะได้แจ้งคำสั่งไม่อนุญาตไปยังผู้ที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งแจ้งสิทธิในการอุทธรณ์ตามระเบียบ และจัดทำกรอบหลักการในการพิจารณาเรื่องรวมกิจการตามแนวทางข้างต้น เพื่อใช้เป็นแนวปฏิบัติต่อไป
นายชวลิต ทิพพาวนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทจีพีเอสซี กล่าวว่า ได้รับทราบคำตัดสินของ กกพ. แต่ทั้งนี้กำลังศึกษาแนวทางและรายละเอียดการดำเนินการต่อไป
นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท.กล่าวว่า การพิจารณาการเข้าซื้อดังกล่าวเป็นอำนาจของ กกพ.ซึ่งปตท.ให้ความเคารพในการตัดสินใจ เพราะเป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งขณะนี้ทาง ปตท.ขอดูเอกสารก่อน ส่วนการตัดสินใจว่าจะดำเนินการต่ออย่างไรขึ้นอยู่กับทางบอร์ดจีพีเอสซี ว่าจะมีการอุทธรณ์หรือไม่ ทาง ปตท.เป็นแค่ผู้ถือหุ้นรายหนึ่งเท่านั้น
นายชวลิต ทิพพาวนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทโกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC
“กกพ.”ไฟเขียว จีพีเอสซี ควบรวม โกลว์ จี้ขาย บริษัท โกลว์ เอสพีพี 1 จำกัด ก่อนควบรวม พ่วงมาตรการ กำหนดเงื่อนไขแนบท้ายสัญญา สร้างความมั่นใจ
นางสาวนฤภัทร อมรโฆษิต เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า ตามที่กกพ.มีมติเ
กกพ.เห็นชอบขึ้น “ค่าเอฟที” 4.30 สตางค์ต่อหน่วย ครั้งแรกในรอบ 16 เดือน ทำให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยงวด ม.ค.-เม.ย.62 ปรับขึ้นไปอยู่ที่ 3.64 บาทต่อหน่วย จากปัจจุบัน 3.60 บาทต่อหน่วย
น.ส.นฤภัทร อมรโฆษิต เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติเป
นายสุรงค์ บูลกุล ประธานกรรมการ บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ หรือ GPSC ชี้แจงกรณีการเข้าซื้อหุ้นของ บมจ.โกลว์ พลังงาน หรือ GLOW ว่า การเจรจาซื้อขายหุ้น (ดี
นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน กล่าวในงานเสวนาใหญ่ประจำปี “โฉมหน้าพลังงานไทยยุค : Disruptive Technology” จัดขึ้นโดย ชมรมวิทยาการพลังงาน เ
นายวีระพล จิระประดิษฐกุล กรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผยว่า ที่ประชุม กกพ.เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2561 มีมติตรึงค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัต
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี