นายพสุ เดชะรินทร์ คณบดี คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นพันธมิตรอย่างเป็นทางการของ WEF (World Economic Forum) ในประเทศไทย เปิดเผยว่าคณะฯ เป็นผู้ทำการเก็บข้อมูลเชิงลึก จากแบบสอบถามกับผู้บริหารระดับสูงขององค์กรขนาดใหญ่และขนาดย่อมทุกภาคส่วนอุตสาหกรรมตามเกณฑ์ที่กำหนด โดย WEF นำไปคำนวณดัชนีความสามารถทางการแข่งขันระดับโลก โดยมีตัวชี้วัด 98 ตัว แบ่งเป็น 12 ด้าน สะท้อนภาพความสามารถในการแข่งขันโดยรวมของประเทศ โดยเกณฑ์และวิธีคำนวณใหม่ของ WEF ที่ออกแบบให้สะท้อนภาพของการปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 มากขึ้น
ในปีนี้ประเทศที่ได้อันดับหนึ่งถึงสิบ คือ สหรัฐอเมริกา ตามมาด้วย สิงคโปร์ เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ ญี่ปุ่น เนเธอร์แลนด์ ฮ่องกง สหราชอาณาจักร สวีเดน และ เดนมาร์ก ตามลำดับ
ขณะที่ประเทศไทยขยับขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 38 ด้วยคะแนน 67.5 ซึ่งนับว่าดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจากปีที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 40 และมีคะแนน 66.3 แสดงให้เห็นว่าเมื่อพิจารณาจากเกณฑ์และวิธีการคำนวณโดยใช้เกณฑ์ 4.0 แล้ว ประเทศไทยก้าวสู่ความเป็น 4.0 มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่าคะแนนและอันดับของประเทศนั้น หากเปรียบเทียบกับความสามารถทางการแข่งขันของประเทศอื่นๆ ทั่วโลก จะพบว่า ด้านที่มีอันดับดีและส่งผลบวกต่อดัชนีความสามารถทางการแข่งขันโดยรวม ได้แก่ ด้านระบบการเงิน ที่ประเทศไทยอยู่อันดับที่ 14 ของโลก และได้รับคะแนน 84.19 (จาก 100)
นอกจากนี้ ด้านขนาดของตลาด ประเทศไทยได้รับการจัดให้อยู่ในอันดับที่ 18 ของโลก และได้รับคะแนน 74.88 โดยด้านขนาดของตลาดจะสะท้อนให้เห็นขนาดของตลาดทั้งในและต่างประเทศที่บริษัทต่างๆ ในประเทศไทยสามารถเข้าถึง โดยเป็นผลรวมของการบริโภคภายในประเทศ การลงทุนและการส่งออก
สำหรับด้านที่ไทยยังจะต้องพัฒนาและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง เพื่อก้าวสู่ความเป็น 4.0 มากขึ้น ประกอบด้วย ด้านการแข่งขันภายในประเทศ ซึ่งไทยได้รับการจัดให้อยู่อันดับที่ 92 ของโลก ด้วยคะแนน 53.4 จะเกี่ยวข้องกับระบบการแข่งขันภายในประเทศที่เปิดให้บริษัทต่างๆ ได้มีโอกาสในการแข่งขันอย่างเท่าเทียม รวมทั้งการปิดกั้นและความซับซ้อนของกฎระเบียบต่างๆ โดยการเปิดโอกาสให้มีการแข่งขันของบริษัทต่างๆ และกฎระเบียบที่ไม่ซับซ้อนและไม่ปิดกั้นต่อการแข่งขันย่อมจะนำไปสู่นวัตกรรมด้านต่างๆ มากขึ้น
ด้านการศึกษาและทักษะ (Education & skills) ของประเทศไทย ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ที่ 66 ของโลก ด้วยคะแนน 62.99 เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศในกลุ่ม ASEAN+3 (ยกเว้น Myanmar ที่ไม่มีข้อมูล) ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มที่มีความใกล้ชิดกับประเทศไทยอย่างสูงนั้น ประเทศไทยอยู่อันดับที่ 6 จาก 12 ประเทศ โดยเป็นรองประเทศ สิงคโปร์ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย และ จีน ซึ่งถือเป็นอันดับที่คงที่ติดต่อกันมาหลายปีสะท้อนสถานะทางการแข่งขันที่มั่นคงของไทยในเวที ASEAN+3 ได้เป็นอย่างดี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี