จีนพร้อมจัดตั้งเครือข่ายพัฒนาพลังงานสะอาดในระดับภูมิภาค เพื่อแบ่งปันโอกาสใหม่ในการเชื่อมต่อพลังงานอย่างครบวงจร เริ่มจากร่วมกันสร้างพื้นที่จำลองการเชื่อมต่อพลังงานในระดับภูมิภาค
16 ตุลาคม ที่ผ่านมา ได้มีพิธีเปิดการประชุมอภิปรายในหัวข้อ “การพัฒนาด้านการเชื่อมต่อพลังงานระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” หรือ Northeast Asia and Southeast Asia Energy Interconnection Development Forum ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน มีผู้เข้าร่วมงานกว่า 450 คนจากทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และภูมิภาคอื่นๆ รวมแล้วกว่า 20 ประเทศทั่วโลก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมประชุมวางแผนการพัฒนาพลังงานอย่างยั่งยืน และส่งเสริมการพัฒนาเชื่อมต่อพลังงานระดับโลกในภูมิภาคเอเชียในเชิงลึก รวมถึงร่วมกันสร้างพื้นที่จำลองการเชื่อมต่อพลังงานในระดับภูมิภาคอีกด้วย ในที่ประชุมเริ่มต้นด้วยการนำเสนอหัวข้อ "รายงานการวิจัยการเชื่อมต่อพลังงานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ" และ "รายงานการวิจัยการเชื่อมต่อพลังงานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้" ที่ประชุมยังได้เสนอแนวทางแก้ไขปัญหาอุปสรรคต่างๆ สำหรับการพัฒนาพลังงานสะอาดและการเชื่อมต่อโครงข่ายในภูมิภาคอย่างครบวงจร
นายหลิว เจิ้นย่า ประธานองค์การเพื่อการพัฒนาและความร่วมมือด้านการเชื่อมต่อพลังงานระดับโลก พร้อมด้วยประธานสภาการไฟฟ้าจีน และ นักวิชาการแห่งสถาบันวิศวกรรมศาสตร์และวิทยาศาสตร์แห่งสวีเดน รวมถึงนักวิชาการแห่งสถาบันวิศวกรรมศาสตร์แห่งสหราชอาณาจักร ได้เข้าร่วมเวทีการประชุมนี้พร้อมกล่าวคำปราศรัย นอกจากนั้นยังมี นาย หลี เหย่ ผู้อำนวยการฝ่ายกำกับดูแลสำนักงานบริหารพลังงานแห่งชาติจีน นาย หลิว หงเผิง ผู้อำนวยการด้านพลังงาน คณะกรรมาธิการแห่งสหประชาชาติภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก พร้อมด้วย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพลังงานแห่งประเทศมองโกเลีย ได้เข้าร่วมการประชุมและกล่าวสุนทรพจน์ด้วย
นาย หลิว เจิ้นย่า กล่าวว่า ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นภูมิภาคที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจของโลกเร็วที่สุด ดังนั้นอุปสงค์และอุปทานด้านการพัฒนาพลังงานมีมากขึ้น โดยปัจจุบันมีสัดส่วนการใช้พลังงานฟอสซิลที่สูงเกินพลังงานอื่นๆ อีกทั้งความสามารถด้านการผลิตไฟฟ้าระหว่างประเทศไม่เพียงพอกับความท้าทายที่เกิดขึ้น สำหรับการพึ่งพาน้ำมันจากต่างประเทศของประเทศจีน ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้นั้นมีมากกว่า 80% ส่วนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยในปัจจุบันมีประชากรมากถึง 65 ล้านคนที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ และยังมีประชากรราว 250 ล้านคนยังคงใช้ฟืนและถ่านสำหรับการปรุงอาหารและทำความร้อน ดังนั้นการเร่งการก่อสร้างระบบเชื่อมต่อพลังงานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะทำให้แหล่งจ่ายพลังงานของแต่ละประเทศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยจะเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานสะอาดอีกทางหนึ่งด้วย “ทั้งนี้การผลักดันสภาพเศรษฐกิจและส่งเสริมการพัฒนาแบบบูรณาการในระดับภูมิภาคจำเป็นต้องมีการสร้างความร่วมมือเชื่อมต่อพลังงานของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยในขณะนี้ได้มีการแบ่งการลงทุนก่อสร้าง ในส่วนระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานสำหรับการขับเคลื่อนพลังงาน 2.7 ล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐ และส่วนการพัฒนาอุตสาหกรรมต้นน้ำและปลายน้ำอีกกว่า 2.1 ล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐ สามารถสร้างงานบุคลากรอีกกว่า 30 ล้านคน" นาย หลิวเจิ้นย่ากล่าว
การประชุมครั้งนี้ได้มีผู้เข้าร่วมอภิปรายจากหลากหลายภูมิภาคและหลายองค์กร อาทิ ตัวแทนหน่วยงานราชการจากประเทศจีน รัสเซีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น มาเลเซีย คาซัคสถาน อิตาลี ฯลฯ บริษัทด้านพลังงาน สถาบันการวิจัย รวมถึงผู้แทนจากสถาบันการเงิน โดยทั้งหมดได้มีการร่วมกันอภิปรายแลกเปลี่ยนกันในกรอบหัวข้อต่างๆ อันได้แก่ พลังงานสะอาดและการเชื่อมต่อ ความร่วมมือในการสร้างและพัฒนาแหล่งพลังงาน โดยเน้นที่การทำให้เกิดการเชื่อมโยงทำงานร่วมกัน รวมถึงได้แบ่งปันงานวิจัยและแนวคิดในหัวข้อการเชื่อมต่อพลังงานของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือและเฉียงใต้ เพื่อให้เห็นถึงอนาคตของการเชื่อมต่อพลังงานโลกที่ดียิ่งๆขึ้นไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี