ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ที่สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์กรมหาชน) สพธอ. หรือ เอตด้า เป็นผู้จัดทำร่างกฎหมายดังกล่าว โดยมุ่งไปที่ประเด็นการให้อำนาจเจ้าหน้าที่ละเมิดความเป็นส่วนตัวของประชาชน คาดว่า ร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวคาดว่ารัฐบาลส่งไปยัง สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ภายในเดือนพฤศจิกายน 2561 นี้
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมป์ (สทค.) และสมาคมผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตไทย (TISPA) ได้เสนอความเห็นต่อร่าง พ.ร.บ.ไซเบอร์ ในมาตรา 58 วรรค 4 ที่จะทำให้กระทบกับผู้ใช้บริการทั่วประเทศ เนื่องจากการยึดอุปกรณ์ในการให้บริการทำให้ผู้ให้บริการไม่สามารถให้บริการได้ ดังนั้น มาตรา 58 ควรกำหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อพิจารณา โดยในคำร้องต้องระบุลักษณะภัยคุกคามทางไซเบอร์อันเป็นเหตุใช้อำนาจตามมาตราดังกล่าว
นอกจากนี้ สมาคมจึงขอทบทวนให้ยกเลิกโทษจำคุกสำหรับผู้ให้บริการที่พยายามดำเนินการเพื่อปกป้องป้องกันโครงสร้างพื้นฐานสำคัญทางสารสนเทศ แต่ควรกำหนดโทษจำคุกแก่ผู้กระทำความผิดต่อความมั่นคงกับประเทศ หรือพยายามกระทำให้เกิดภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้อื่น
“น่าเสียดายถ้าร่างกฎหมายฉบับนี้จะสร้างหน่วยงานที่ทรงอำนาจขึ้นมาชื่อ “กปช.”(คณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ หรือ CSA- Cyber security Agency) ที่จะดำเนินการอย่างไรก็ได้ด้วยข้ออ้างความมั่นคงของรัฐ และความสงบเรียบร้อย ทั้งที่หน่วยงานนี้ควรจะมาคุ้มครองภัยคุกคามไซเบอร์ให้กับภาคประชาชน ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) องค์กรเล็กๆ ที่มีข้อจำกัด ต่อไปถ้าเครื่องคอมพิวเตอร์ที่บ้านถูกแฮกนำไปใช้โจมตีระบบสารสนเทศของรัฐ เจ้าหน้าที่ กปช.ก็จะมายึดคอมพิวเตอร์ไปโดยตั้งข้อสงสัยว่าเป็นเครื่องที่ใช้ก่อภัยทางไซเบอร์ โดยไม่สนใจว่าเราจะเสียหายอย่างไร” แหล่งข่าวกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี