25 ต.ค.61 นายสมบูรณ์ หน่อแก้ว รองอธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) เปิดเผยหลังการหารือร่วมกับ บมจ.ปตท. และธนาคารกรุงไทย จำกัด เพื่อพิจารณาแนวทางดำเนินโครงการช่วยเหลือรถจักรยานยนต์รับจ้างให้ได้ใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 ราคาต่ำกว่าปกติ 3 บาทต่อลิตร ตามนโยบายของ นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานว่า จากการหารือได้ข้อสรุปที่จะดำเนินโครงการดังกล่าวในช่วงสิ้นปีนี้ก่อนปีใหม่นี้ โดยปตท.จะรับผิดชอบต้นทุนน้ำมัน 3 บาทต่อลิตรทั้งหมด โดยมีเงื่อนไขรถจักรยานยนต์รับจ้างจะต้องมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และต้องจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกที่คาดว่าจะเข้าข่ายคุณสมบัติดังกล่าวประมาณ 4 หมื่นราย
“เดิมราคาที่ลดจะให้ ปตท.ช่วย 1 บาทต่อลิตร ที่เหลือกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง แต่ต้องให้ ปตท.ดำเนินการเพราะกองทุนน้ำมันฯ มีหลักเกณฑ์ที่ไม่สามารถนำมาดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว โดยรถที่เข้าเกณฑ์มี 4 หมื่นคัน กำหนดให้ได้รับการช่วยเหลือวันละไม่เกิน 5 ลิตร/ราย/วัน หรือประมาณ 150 ลิตร/เดือน หรือ 450 บาท/เดือน รวมประมาณ 18 ล้านบาท/เดือน นับเป็นมาตรการช่วยเหลือจาก ปตท.ในการช่วยเหลือรถสาธารณะที่ ปตท.ช่วยสนับสนุนราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) ราคาต่ำอีกประมาณ 40 ล้านบาทต่อเดือน ทำให้รวมแล้ว ปตท.เข้ามาช่วยเหลือรถสาธารณะ 58 ล้านบาท/เดือน” นายสมบูรณ์กล่าว
อย่างไรก็ตาม รถจักรยานยนต์รับจ้างที่จดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกปัจจุบันมี 2 แสนรายแต่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 4 หมื่นรายเท่านั้น ซึ่งกลุ่มที่ยังไม่ได้สมัครก็ยังสามารถดำเนินการได้จนถึงเดือนเมษายน โดยกรมบัญชีกลางจะเปิดให้ลงทะเบียนครั้งใหม่ อย่างไรก็ตาม จะต้องหารือกับกระทรวงการคลังว่าเครื่องรูดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ซื้อน้ำมันปั๊ม ปตท. 1,800 แห่งทั่วประเทศจะใช้เครื่องรูดบัตรอีดีซีได้เฉพาะเครื่องของธนาคารกรุงไทย หรือสามารถรูดบัตรผ่านเครื่องอีดีซีของ ปตท.ที่ใช้เครือข่ายธนาคารกสิกรไทยได้หรือไม่ ซึ่งจะเร่งสรุปโดยเร็ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี