นายพรเทพ ชูพันธุ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์(บล.) ไทยพาณิชย์ หรือ SCBS เปิดเผยว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้น่าจะขยายตัว 4.5% ปี 2562 คาดขยายตัว 4.0% มีปัจจัยบวกจากการเลือกตั้ง การใช้จ่ายภายในประเทศที่สูงขึ้น ประกอบกับการเติบโตของกำไรต่อหุ้น(Earnings Per Share) ของตลาดโดยรวมที่8-10% ตามการขยายตัวของเศรษฐกิจ หรือ GDP ที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นอย่างช้าๆ ขณะที่การส่งออกปีหน้าคาดขยายตัว5-8% โดยมองว่า สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนจะส่งผลกระทบกับการส่งออกของไทยในปีหน้า ทำให้เศรษฐกิจไทยต้องพึ่งพาปัจจัยภายในประเทศมากกว่าการส่งออกเหมือนเช่นหลายปีที่ผ่านมา
ความเสี่ยงที่ต้องติดตามได้แก่ ปัญหาค่าเงินตลาดเกิดใหม่ซึ่งคาดว่าไม่น่าลุกลามเพราะเป็นปัจจัยเฉพาะตัวของบางประเทศซึ่งขาดวินัยและพึ่งพาเงินทุนไหลเข้าจากมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) มากเกินไปในช่วงก่อนหน้า ทำให้อาจเจอเศรษฐกิจหดตัวเมื่อสหรัฐฯ ปรับขึ้นดอกเบี้ย ส่วนไทยมีทุนสำรองเงินตราต่างประเทศจำนวนมาก หนี้ต่างประเทศน้อย เกินดุลบัญชีเดินสะพัดสูงมาก ฐานะการคลังแข็งแรงน่าจะผ่านพ้นความผันผวนภายนอกเหล่านี้ไปได้สบายๆ
ทั้งนี้ SCBS มองว่าในช่วง ไตรมาส 4 ปี 2561 เริ่มเห็นสัญญาณของไทยที่เข้าสู่วัฏจักรการลงทุนรอบใหม่เม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) มียอดสะสม 12 เดือนรวม 1.14 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สูงที่สุดในรอบ 4 ปี โดยดาดว่า FDI จะไหลเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น
นอกจากนี้ อัตราการใช้กำลังการผลิตในประเทศไทยขยับขึ้นไปที่ 68% สูงสุดในรอบ 4 ปีจะส่งผลทำให้การลงทุนภาคเอกชนปรับตัวเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับกองทุนเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับเพิ่มประมาณการเศรษฐกิจไทยปีนี้และปีหน้าสวนทางกับการปรับลดประมาณการเศรษฐกิจโลกจึงมองว่าปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งจะส่งผลให้ SET index ทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ได้ในปี 2562 ที่ราว 2,000 จุด ส่วนปีนี้มั่นใจ SET INDEX เกิน 1,800 จุดแน่นอน โดยทาง SCBS คาดว่าจะอยู่ที่ 1,900 จุด
ส่วนหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้นต่อเนื่องและยาวนานนับตั้งแต่จุดต่ำสุดเมื่อต้นปี 2559 สร้างผลตอบแทนสูงกว่า 50% ในช่วงที่ผ่านมา ในแง่เศรษฐกิจยังไม่พบสัญญาณเตือนภาวะวิกฤติ โดยเฉพาะตลาดหุ้นเอเชียและตลาดหุ้นไทย ซึ่งน่าสนใจมากกว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ
สำหรับประเทศไทย เริ่มมีสัญญาณว่าไทยจะเข้าสู่วัฏจักรการลงทุนรอบใหม่ ทำให้ความต้องการสินเชื่อเพิ่มขึ้นซึ่งเมื่อรวมกับแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายขาขึ้น จะส่งผลดีต่อธนาคารพาณิชย์ ดังนั้นกลุ่มที่น่าจะได้รับอานิสงส์จากวัฏจักรการลงทุนขาขึ้น ได้แก่กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม (AMATA, ROJNA, WHA) และกลุ่มธนาคาร (BBL, KTB, TMB)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี