คมนาคมรื้อแผนแม่บทโครงข่ายคมนาคม พร้อมสั่ง สนข.พิจารณาทบทวนแผนแม่บทการพัฒนาของ ทล.-กทพ.ใหม่เรื่องการทับซ้อนแนวเส้นทาง 21 เส้นทาง
26 ต.ค.61 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังการเป็นประธานการประชุมหารือการบูรณาการแผนแม่บทการพัฒนาทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง ระยะ 20 ปี ของกรมทางหลวง(ทล.) และแผนแม่บททางพิเศษของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) ว่า ได้มีการมอบหมายให้ทางสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) พิจารณากรอบการพัฒนาทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองจากหลักการโครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (Intercity Motorway) และกรอบการพัฒนาทางพิเศษในเขตเมือง (Urban Areas) ที่ทางพิเศษ(ทางด่วน) จะต้องเน้นในเรื่องของการแก้ไขปัญหาจราจรในกรุงเทพและปริมณฑล ส่วนทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง(มอเตอร์เวย์)จะเน้นการเชื่อมโยงระหว่างเมือง
“ทั้ง 2 ส่วนจะต้องเชื่อมต่อกัน โดยจะต้องมีการรื้อแผนที่มีอยู่เดิมมาพิจารณาก่อน และอาจจะต้องมีการปรับทอนตัวโครงการลงหากมีการทับซ้อน ซึ่งทาง สนข.จะเป็นผู้พิจารณาการบูรณาการแผนพัฒนาโครงข่ายในแง่ของตัวผังรวมของประเทศเพื่อให้เห็นภาพก่อน” รมว.คมนาคม กล่าว
รมว.คมนาคม กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ยังได้มีการมอบหมายให้ไปพิจารณาแผนแม่บทของ ทล. จำนวน 21 เส้นทาง วงเงินลงทุนรวม 2.1 ล้านล้านบาท โดยให้กลับไปทบทวนในเรื่องของการทับซ้อนกับแนวเส้นทางการพัฒนาของการทางพิเศษฯ และการทับซ้อนของเส้นทางรถไฟ เพื่อไม่ให้เป็นคู่แข่งกันเพราะจะไม่สามารถเปลี่ยนเพื่อเชื่อมต่อการเดินทางจากถนนสู่รถไฟได้ รวมถึงแนวเส้นทางที่มีถนน 4 ช่องจราจรอยู่แล้วก็จะต้องไปพิจารณาว่ามีการซ้ำซ้อนหรือมีความจำเป็นมากแค่ไหน โดยจะมีการพิจารณาว่าโครงการของหน่วยงานใดมีความพร้อมและมีความจำเป็นก็จะให้หน่วยงานนั้นรับผิดชอบพัฒนาไป ซึ่งบางเส้นทางอาจจะไม่จำเป็นต้องอยู่ในแผนการพัฒนาระยะ 20 ปี
ทั้งนี้ เน้นการดำเนินการจากความจำเป็นเร่งด่วนเช่น ปัญหารถติดในกรุงเทพมหานคร และการรองรับเส้นทางเข้าสู่พื้นที่พัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(EEC) ที่ทาง ทล.มีแผนจะพัฒนาเส้นทางเชื่อมต่อไปถึงในส่วนที่เป็นท่าเรือเลย รวมถึงบางโครงการมีการระดมทุนแบบ PPP และกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตามก็ยังคงมีค่าใช้จ่ายในค่าเวนคืนที่จะต้องใช้งบประมาณจากรัฐ
สำหรับในส่วนของโครงการทางด่วนพระราม3-ดาวคะนอง ทางการทางพิเศษฯก็ได้เดินหน้าตามขั้นตอน และส่วนโครงการก่อสร้างทางยกระดับบนทางหลวงหมายเลข 35 สายธนบุรี-ปากท่อ (ถนนพระราม 2) จากแยกบางขุนเทียน-วังมะนาว วงเงิน 10,500 ล้านบาท ทางกรมทางหลวงได้รับการจัดสรรงบประมาณเรียบร้อยแล้ว ด้านเส้นทางช่วงรังสิต-นครนายก เนื่องจากมีเส้นทางเลือกอยู่ก็ได้สั่งการให้ไปพิจารณาว่าเส้นทางมีความพร้อมและใช้งบประมาณลงทุนน้อยที่สุด
นอกจากนี้ โครงการทางด่วนขั้นที่3สายเหนือตอน N1และN2 ในส่วนที่ดำเนินการได้ให้ดำเนินการก่อนส่วนอื่นก็ต้องรอผลการศึกษา สนข.ก่อน และพิจารณาแนวเส้นทางจากพื้นที่พัฒนาบริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออก (Eastern Seaboard Development Program :ESB) ตัดขึ้นไปที่นครราชสีมา หรือ โครงข่ายมอเตอร์เวย์หมายเลข M61 เส้นทางชลบุรี–นครราชสีมา โดยให้ลงไปทางใต้อย่างบุรีรัมย์ได้หรือไม่
ด้านนายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า จากในที่ประชุมได้มีการมอบหมายให้ สนข.พิจารณากรอบการพัฒนาของเส้นทางของ ทล.และการทางพิเศษฯ เพื่อไม่ให้เกิดการซ้อนทับนั้นยังต้องมีการนำแผนการพัฒนาของรถไฟมาพิจารณา หากเส้นทางไหนมีรถไฟให้พิจารณาการใช้รถไฟเป็นหลักเนื่องจากขนส่งทั้งสินค้าและคนได้เยอะและขณะนี้โครงการแผนลงทุนพัฒนารถไฟส่วนใหญ่ลงทุนไปเยอะและมีความคืบหน้าไปมาก นอกจากนี้ยังมีในส่วนของโครงการพัฒนาท่าเรือบก(Dry port) ที่จะทำให้การขนส่งสินค้าในอนาคตสะดวกขึ้นรถบรรทุกสินค้าวิ่งขนส่งสินค้าในระยะทางสั้นขึ้นจึงไม่จำเป็นต้องเน้นการพัฒนามอเตอร์เวย์เพิ่มอีก
รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม ระบุว่าโครงข่ายทางพิเศษของ กทพ. จำนวน 17 สายทาง ซ้อนทับกับโครงการภายใต้แผนแม่บทการพัฒนาทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองฯ ของ ทล. ซึ่งอยู่ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และจังหวัดใกล้เคียง ประกอบด้วย โครงการทางพิเศษสายฉลองรัช – นครนายก – สระบุรี (E5) ซ้ำซ้อนกับโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายกรุงเทพฯ – สระบุรี (M62) โครงการทางพิเศษสายอุดรรัถยา – พระนครศรีอยุธยา (E6) ซ้ำซ้อนกับโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายกรุงเทพฯ – บางปะหัน (M53) และโครงการทางพิเศษสายถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ด้านตะวันตก – สมุทรสงคราม (E15) ซ้ำซ้อนกับโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายกรุงเทพฯ – ปากท่อ (M82)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี