‘สุเมธ’แอ่นอกรับผิด 

เปิดผลสอบTGจันทร์นี้

ขอก้าวข้ามความขัดแย้ง

มุ่งผ่าตัดฟื้นฟูการบินไทย

สืบเนื่องจากกรณีสายการบินไทย เที่บวบิน ทีจี 971 จากซูริค-กรุงเทพฯล่าช้ากว่ากำหนด 2 ชั่วโมงครึ่ง เนื่องจากกัปตันแย่งที่นั่งผู้โดยสาร จนสุดท้าย ฝ่ายบริหารต้องออกมาขอโทษพร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงมีกำหนด 7 วัน

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ว่า ในวันที่ 29 ตุลาคม 2561 นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่หรือดีดีการบินไทยได้นัดจะแถลงผลการสอบสวน

แหล่งข่าวระดับสูงกล่าวว่า การสอบสวนทั้งจากฝ่ายนักบิน และฝ่ายนายสถานี ได้ข้อยุติเป็นที่ชัดเจนว่าปัญหาเกิดจากการประสานงานกัน ทำให้มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นทั้งสองฝ่าย แต่เพื่อให้การแก้ปัญหาภายในการบินไทย ราบรื่น ฉะนั้น นายสุเมธ จึงขอรับผิดชอบต่อกรณีที่เกิดขึ้นพร้อมทั้งได้กล่าวขอโทษผู้โดยสารและขอโทษประชาชนในนามฝ่ายบริหารไปแล้ว

ทั้งนี้การสอบสวนดังกล่าวไม่ได้พุ่งเป้าไปว่าจะต้องชี้ถูกชี้ผิด แต่เพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงเพื่อนำมาแก้ไขปรับปรุงไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ผู้โดยสารเดือดร้อนอีก ประกอบกับการบินไทยเป็นบริษัทใหญ่ ก่อตั้งมา 58 ปี จึงถึงเวลาที่จะใช้วิกฤตเป็นโอกาสในการผ่าตัดปรับโครงสร้างของการบินไทยใหม่ทั้งหมด

“การไปลงโทษผู้ใต้บังคับบัญชาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ก่อให้เกิดประโยนช์ต่อองค์กร เราอยากให้ทุกฝ่ายรักและสามัคคีกัน โดยให้ยึดมั่นในหน้าที่ของตนอย่างเคร่งครัด และยึดถือเอาผู้โดยสารเป็นสิ่งสำคัญที่สุด”แหล่งข่าวกล่าวและว่า จากนี้ไป การบินไทยจะมีแผน2ด้านคือด้านการเงิน จะทำให้องค์กรกลับมาฟื้นและมีกำไร อีกด้านก็จะปรับปรุงโครงสร้างใหม่เพื่อให้บริหารธุรกิจในรูปแบบใหม่เพื่อการแข่งขันได้ทันโลกสมัยใหม่

อย่างไรก็ตาม มีรายงานเข้ามาว่า เกิดเที่ยวบินล่าช้าขึ้นอีกแล้ว ครั้งนี้เป็นเที่ยวบินจาก กรุงเทพฯ –โอซาก้า วันที่26 ตุลาคม เที่ยวบินล่าช้าถึง8ชั่วโมง ทำให้ต้องบินเช้าวันที่ 27 ตุลาคม โดยทางฝ่ายสื่อสารองค์กรของการบินไทย ได้ชี้แจงว่าเกิดจากเครื่องบินเสีย จึงเปลี่ยนเครื่องใหม่ และปฏิเสธว่าไม่ได้เกิดจากการที่นักบินประท้วงเงียบแต่อย่างใด

ทั้งนี้กรณีดังกล่าว หากนักบินทำการประท้วงเงียบด้วยการไม่ไปบินจริง จะทำให้ตัวนักบินเสียหายเองเพราะสังคมได้ตัดสินแล้วว่า เหตุการณ์ ทีจี 971 เป็นความผิดของนักบิน

และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กัปตันสนอง มิ่งเจริญ ในฐานะนายกสมาคมนักบินไทย ได้ขอเข้าพบ นายสุเมธ เพื่อทำความเข้าใจซึ่งผลการหารือทุกอย่างออกมาแฮปปี้ ดังนั้นการเกิดความล่าช้าของเที่ยวบิน กรุงเทพฯ-โอซาก้า หากเป็นเจตนาของนักบิน นอกจากจะส่งผลเสียต่อนักบินแล้ว ยังเป็นการทำร้ายองค์กรให้เสียหายยับเยินกว่าที่เป็นอีก