นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า การสิ้นสุดสัญญาสัมปทานของบมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือดีแทค บนคลื่นความถี่ 850 MHz และ 1800 MHz เมื่อเดือนกันยายน 2561 ที่ผ่านมาถือเป็นการสิ้นสุดสัญญาสัมปทานการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของประเทศไทยครั้งสุดท้ายแล้ว
สำหรับผู้ประกอบการที่ทำสัญญาสัมปทานกับรัฐวิสาหกิจ คือ บมจ.ทีโอที บมจ.กสท โทรคมนาคม ต่อมาสัมปทานสิ้นสุดลง และมีการเรียกเก็บรายได้จากการให้บริการในช่วงเปลี่ยนผ่านจากสัมปทานไปสู่ใบอนุญาตของกสทช.ตามมาตรการเยียวยาทั้งคลื่น 1800 MHz และ 900 MHz ของทั้ง 3 บริษัท (บริษัท ทรู มูฟ จำกัด หรือ TRUE MOVE จากบริษัท ดิจิตอล โฟน จำกัด หรือ DPC และจากบมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ AIS) ที่จะนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 10,918,751,835.36 บาท
นายฐากรกล่าวว่า กรณีของบริษัทดีแทคยังอยู่ในระยะเวลาคุ้มครองผู้ใช้บริการตามประกาศ กสทช. เรื่อง มาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการเป็นการชั่วคราวในกรณีสิ้นสุดการอนุญาต สัมปทาน หรือสัญญาการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ พ.ศ. 2556 และที่แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 2 ซึ่งเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2561 ที่ประชุม กสทช. มีมติกำหนดวันสิ้นสุดการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ย่าน 1800 MHz ของ DTAC ให้มีผล ณ เวลา 23.59.59 น. ของวันที่ 15 ธันวาคม 2561
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี