สุดอั้น!ปรับขึ้นค่าไฟฟ้า
อีก4.30สต.
ต้องจ่ายหน่วยละ3.64บ.
เหตุราคาเชื้อเพลิงพุ่ง
เริ่มงวดม.ค.-เม.ย.’62
กกพ.ช่วยหมื่นล.ไม่พอ
กกพ.อั้นค่าไฟฟ้าไม่อยู่ ปรับขึ้นค่าเอฟที 4.30 สตางค์ต่อหน่วย ครั้งแรกรอบ 16 เดือน อ้างเหตุราคาต้นทุนเชื้อเพลิงผันผวนปรับตัวพุ่งสูงขึ้น ส่งผลต้องจ่ายค่าไฟฟ้า 3.64 บาทต่อหน่วย งวดมกราคม-เมษายน 2562 แม้ กกพ.อัดเงินอุดหนุนนำมาตรการต่างๆ กว่า 1.03 หมื่นล้าน ช่วยบรรเทาภาระประชาชน
เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน น.ส.นฤภัทร อมรโฆษิต เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในฐานะโฆษก กกพ.แถลงว่า กกพ.มีมติให้เรียกเก็บอัตราค่าไฟฟ้าผันแปร หรือ ค่าเอฟทีงวดเดือนมกราคม-เมษายน2562 จำนวน 11.60 สตางค์ต่อหน่วย เมื่อเทียบกับค่าเอฟที ที่เรียกเก็บปัจจุบัน -15.90สตางค์ต่อหน่วย หรือคิดเป็นการปรับเพิ่มขึ้นจากงวดก่อน4.30สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งเป็นการปรับขึ้นค่าเอฟที ครั้งแรกในรอบ 16 เดือน โดยปัจจัยหลักมาจากราคาเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้าปรับตัวสูงขึ้นมากอย่างต่อเนื่อง
“โดยเฉพาะราคาก๊าซเดือนกันยายน-ธันวาคม 2561ปรับตัวสูงขึ้น12.67บาทต่อล้านบีทียูราคาน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น3.48 บาทต่อลิตร ราคาน้ำมันเตาเพิ่มขึ้น1.17บาทต่อลิตรและราคาถ่านหินเพิ่มขึ้น114.36บาทต่อตัน และราคาซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศปรับเพิ่มขึ้น0.08บาทต่อหน่วย ทำให้ประชาชน จะต้องจ่ายค่าไฟฟ้าเฉลี่ยอยู่ที่ 3.64 บาทต่อหน่วย จากปัจจุบันจ่าย 3.60บาทต่อหน่วย(ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)”โฆษก กกพ.ย้ำ
จากปัจจัยผลกระทบการปรับขึ้นของราคาน้ำมันเชื้อเพลิง กกพ.คาดการณ์ว่าราคาเชื้อเพลิงยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและยืนอยู่ระดับสูงต่อเนื่อง ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าในระยะต่อไปยังคงอยู่ในภาวะขาขึ้นดังนั้นเพื่อให้ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมในประเทศปรับตัว และบรรเทาภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน ทางกกพ.ได้เตรียมมาตรการบริหารจัดการและมาตรการทางการเงินเข้าไปดูแลทั้งมาตรการส่งเสริมประสิทธิภาพในการบริหารจัดการต้นทุนเชื้อเพลิงที่จำเป็นสำหรับการผลิตไฟฟ้า
โดยประสานความร่วมมือ บมจ.ปตท.วิเคราะห์การลดสัดส่วนนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว(แอลเอ็นจี)พร้อมประสานความร่วมมือกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)ให้พิจารณาแหล่งผลิตไฟฟ้าที่มีความเหมาะสมเพื่อเพิ่มปริมาณการซื้อไฟฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้นและมีต้นทุนต่ำกว่าการผลิตภายในประเทศ
สำหรับมาตรการทางการเงินและบัญชีมาช่วยบรรเทาภาระประชาชน10,367ล้านบาท เพื่อใช้ในการบริหารจัดการค่าเอฟที ดังนี้ กกพ.มีมติให้นำเงินสะสมจากการเรียกเก็บค่าเอฟที 3,298ล้านบาทรวมกับเงินค่าบริหารเอฟทีและค่าปรับจากผู้ประกอบการ5,547ล้านบาทและเม็ดเงินลงทุนจากการไฟฟ้าที่ไม่ได้ลงทุนตามแผนอีก1,522ล้านบาทเพื่อลดต้นทุนการผลิตและลดการผันผวนของการปรับเพิ่มค่าเอฟทีที่ส่งผลกระทบต่อค่าบริหารไฟฟ้าเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี