นายวิทยา เปรมจิตร์ นายกสมาคมพัฒนารถร่วมบริการเอกชน (รถเมล์ร่วม ขสมก.) กล่าวว่า วันที่ 19 พ.ย.นี้ ผู้ประกอบการรถร่วมบริการ 2 สมาคม จะเข้าพบนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อติดตามทวงถามข้อเรียกร้องที่ผู้ประกอบการเคยยื่นไว้ โดยเฉพาะปัญหาต้นทุนเชื้อเพลิงที่ต้องแบกรับในปัจจุบัน แม้ภาครัฐจะมีมาตรการช่วยเหลือชดเชยค่าก๊าซต่อเดือนๆ ละไม่เกิน 35,000 บาทต่อคัน แต่พบว่าเงินชดเชยดังกล่าวรับภาระได้เพียง 20 วันต่อเดือนเท่านั้น ที่เหลือต้องซื้อก๊าซราคาตลาดกลายเป็นภาระ ทำให้ผู้ประกอบการหลายรายแม้แต่รายใหญ่ๆ ที่แบกรับต้นทุนไม่ไหวต่างต้องยกเลิกการเดินรถจำนวนมาก
นายวิทยา กล่าวอีกว่า ขณะที่ผ่านมาผลการศึกษาจากองค์กรวิชาการต่างๆระบุว่า ต้นทุนการเดินรถเป็นจริงและผู้ประกอบการสามารถอยู่ได้ไม่ใช่ราคาปัจจุบัน แต่ภาครัฐไม่เคยอนุญาตให้ปรับค่าโดยสาร ดังนั้น ครั้งนี้ผู้ประกอบการจะยื่นข้อเรียกร้องถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รวมทั้งจะทำสำเนาเอกสารเรียนนายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาปรับค่าโดยสารในส่วนของรถร้อนและมินิบัส จากปัจจุบัน 9 บาท ขอปรับเป็น 12 บาท ขณะที่รถปรับอากาศเริ่มต้น 13 บาท ขอปรับระยะละ 2 บาท หรือเริ่มต้น 15 บาท
ส่วนกรณีผู้ประกอบการต้องเปลี่ยนรถใหม่ใช้เชื้อเพลิงเอ็นจีวีนั้น หลังจากนี้ผู้ประกอบการยืนยันว่าจะขอเก็บค่าโดยสารราคาที่มีผลศึกษาของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ)รองรับคือ เริ่มต้น 20 บาท
ทั้งนี้ การเข้ายื่นข้อเรียกร้องดังกล่าวผู้ประกอบการรถร่วมเอกชนหวังว่า จะได้รับการพิจารณา เนื่องจากกระทรวงคมนาคมเคยรับปากจะมีมาตรการช่วยเหลือหลายครั้ง เริ่มตั้งแต่ผู้ประกอบการโอนย้ายจากเคยเป็นคู่สัญญาเดินรถกับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้มีการปรับเปลี่ยนมาเป็นกรมการขนส่งทางบก แต่ไม่เคยแก้ไขปัญหาให้ผู้ประกอบการ ปัจจุบันผู้ประกอบการยังต้องชำระค่าขาตามสัญญาเดินรถให้ ขสมก. รวมทั้งมีภาระต้นทุนอื่นๆ สูงขึ้น ทั้งค่าซ่อมบำรุง และค่าแรงพนักงาน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี