คลังจัดโปรฯชุดใหญ่
ก่อนเลือกตั้ง
ช็อปช่วยชาติ-คืนแวต
รับปีใหม่-ฉลองตรุษจีน
รบ.อ้างไม่ได้‘หาเสียง’
ลังจัดให้อีกชุดใหญ่ เตรียมแจก “อั้งเปา” คนไทย ทุ่มหมื่นล้าน คืนภาษีช่วงตรุษจีน 1-15 กุมภาพันธ์ปีหน้า อ้างไม่ได้หาเสียง แต่ทำมาอย่างต่อเนื่องพร้อมเข็นมาตรการ‘ช้อปช่วยชาติ’ดันเข้าครม. 4ธ.ค.เป็นของขวัญปีใหม่
เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้มอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)เดินหน้าศึกษามาตรการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT) ให้กับผู้ใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตในช่วงเทศกาลตรุษจีน เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2562 เบื้องต้นคาดว่าจะคืนVAT 5% และกำหนดวงเงินการใช้ไม่เกิน 20,000 บาทต่อคน หรือคิดเป็นวงเงินการคืนภาษีสูงสุดไม่เกิน 1,000บาท
“โดยกำหนดระยะเวลาใช้จ่าย 15 วัน หรือช่วง 1-15กุมภาพันธ์ 2562 คาดว่าจะใช้งบประมาณประมาณ 6,000 - 7,000 ล้านบาท แต่จะขอวงเงินเผื่อไว้ประมาณ10,000 ล้านบาท โดยรัฐบาลจะเริ่มคืนเงินวันที่ 15 มีนาคม 2562 ผ่านระบบพร้อมเพย์ที่ลงทะเบียนผ่านบัตรประชาชนเท่านั้น โดยรัฐบาลจะขอให้สถาบันการเงินยกเว้นค่าธรรมเนียมทำบัตรเดบิต”รมว.คลัง กล่าว
และยืนยันว่า มาตรการต่างๆที่ออกมานั้น ไม่ได้ทำเพื่อการหาเสียง แต่เป็นโครงการต่อเนื่องที่ทำมาตลอด โดย 2 ปีก่อนทำช้อปช่วยชาติ เพราะการบริโภคลดลงหรืออยู่ที่ 1% แต่ขณะนี้การบริโภคอยู่ที่ 4% ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี แต่บางสินค้ายังต้องช่วยเหลือ ส่วนมาตรการคืน VAT ก็เป็นส่วนหนึ่งในการพยุงเศรษฐกิจปี 2562 เติบโตได้เกินกว่า 4% ส่วนมาตรการอื่นๆจะมีเพิ่มเติมอีกหรือไม่นั้น จะต้องดูภาวะเศรษฐกิจในอนาคต แต่ปัจจุบันกระทรวงการคลังยังมองว่าเศรษฐกิจปี 2562 จะเติบโตได้เกินกว่า 4%
นายอภิศักดิ์กล่าวว่าส่วนมาตรการช้อปช่วยชาตินั้นคาดว่าจะเข้าสู่การพิจารณาครม.วันที่4ธ.ค.นี้ และมีผลบังคับระหว่างวันที่15ธ.ค.จนถึงวันที่15ม.ค.62 โดยมีสินค้า 3รายการที่เข้าร่วมมาตรการ ประกอบด้วย1.ล้อยางรถยนต์ 2.หนังสือและe-bookและ3.สินค้าโอทอปนำมาลดหย่อนภาษีได้ 15,000บาท
โดยในปีนี้ประชาชนที่ซื้อสินค้าจากโอทอปไม่จำเป็นต้องใช้ใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ เพียงแต่ใช้บิลเงินสดและร้านค้าโอทอปต้องขึ้นทะเบียนสินค้าโอทอปกับกระทรวงพาณิชย์เท่านั้น โดยยืนยันว่า มาตรการนี้ เป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการบางกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจ
ขณะที่กรมสรรพากร ได้ออกเป็นหนังสือชี้แจงกรณีมีการวิจารณ์เกี่ยวกับมาตรการช็อปช่วยชาติว่า เป็นการช่วยนายทุนเจ้าของห้างสรรพสินค้ามากกว่าช่วยประชาชนและควรนำงบประมาณไปช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยและชาวบ้านระดับรากหญ้ามากกว่านั้น ขอยืนยันว่า มาตรการช้อปช่วยชาติมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการขยายตัวทางเศรษฐกิจโดยรวม
นอกจากนั้น การกำหนดประเภทสินค้า 3 ประเภทยังเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ได้รับความเดือดร้อนจากราคาผลผลิตตกต่ำ การพัฒนาทุนมนุษย์ และการส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนโดยตรง จึงคุ้มค่าที่จะดำเนินการ ดังเห็นได้จากแนวทางการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับการซื้อสินค้าแต่ละประเภทซึ่งกำหนดไว้ดังนี้ 1.สินค้าประเภทยางล้อรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และรถจักรยานได้กำหนดว่า วัตถุดิบต้องมาจากยางที่การยางแห่งประเทศไทยรวบรวมหรือรับซื้อจากเกษตรกรชาวสวนยาง จึงจะช่วยให้เกษตรกรชาวสวนยางมีรายได้เพิ่มขึ้น
2.สินค้าประเภทหนังสือและ e-Book เป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. 2561-2580) ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างทรัพยากรมนุษย์และเป็นไปตามที่กรมสรรพากรได้เคยหารือกับกระทรวงวัฒนธรรม โดยจะช่วยยกระดับคุณภาพทุนมนุษย์ของประเทศผ่านการอ่าน และว่า3.สินค้าOTOP ได้กำหนดให้ซื้อจากผู้ที่ลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชน แต่จะเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่ก็ได้ จึงมิได้จำกัดอยู่แค่ห้างสรรพสินค้า แต่จะช่วยกระจายรายได้ไปยังชุมชนต่างๆ อย่างทั่วถึง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี