นายสมภพ พัฒนอริยางกูล ผู้อำนวยการ สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักปลัดกระทรวงพลังงาน และโฆษกกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2561 ที่ประชุมครม.ยังไม่ได้พิจารณาเรื่อง ผู้ชนะการประมูลสัมปทานปิโตรเลียมแปลง G1/61 (แหล่งเอราวัณ) และ G2/61 (แหล่งบงกช) ให้กับครม.พิจารณาได้ เนื่องจากการประชุมครม. วันดังกล่าวมีวาระการประชุมค่อนข้างมาก ดังนั้นจึงไม่สามารถเสนอเรื่องดังกล่าวให้เป็นวาระจรได้
“ที่ประชุมครม.มีวาระที่จะต้องพิจารณาค่อนข้างมาก และเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องใหญ่ จึงไม่สามารถบรรจุเรื่องนี้เป็นวาระจรได้ทัน ดังนั้นหลังจากนี้ เลขาธิการ ครม. จะบรรจุเรื่องดังกล่าวเป็นวาระปกติต่อไป แต่ไม่ทราบจะเป็นวันไหน หรือสัปดาห์หน้าหรือไม่” นายสมภพ กล่าว
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า ปตท.สผ.จะชนะประมูล 2 แปลงเป็นไปตามกระแสหรือไม่ นายสมภพกล่าวว่า ไม่ทราบแต่อย่างใด
มีรายงานแจ้งว่า สำหรับเอกชนที่ยื่นประมูลแหล่งเอราวัณและบงกช ประกอบด้วย แปลง G1/ 61 (แหล่งเอราวัณ) มี 2 ราย ได้แก่ บริษัท ปตท.สผ. เอนเนอร์ยี่ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ร่วมกับ บริษัท เอ็มพี จี 2 (ประเทศไทย) จำกัด ในเครือมูบาดาลา และบริษัท เชฟรอน ไทยแลนด์ โฮลดิ้งส์ จำกัด ร่วมกับ บริษัท มิตซุย ออยล์ เอ็กซ์โปลเรชั่น คัมปานี ลิมิเต็ดฯ
ส่วนแปลง G2/61 (แหล่งบงกช) ได้แก่ บริษัท ปตท.สผ.เอนเนอร์ยี่ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด และบริษัท เชฟรอน ไทยแลนด์ โฮลดิ้งส์ จำกัด ร่วมกับ บริษัท มิตซุย ออยล์ เอ็กซ์โปลเรชั่น คัมปานี ลิมิเต็ดฯ
ก่อนหน้านี้ นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการปิโตรเลียม กล่าวว่า คณะกรรมการฯได้สรุปผลการพิจารณาข้อเสนอของเอกชนที่ยื่นประมูลแหล่งเอราวัณและบงกชเสร็จเรียบร้อยแล้ว และได้ส่งเรื่องให้นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน พิจารณา เพื่อเตรียมนำเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) คัดเลือกผู้ชนะการประมูลทั้ง 2 แหล่งภายในเดือน ธันวาคม ตามขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้จะลงนาม ในสัญญากับเอกชนผู้ชนะประมูล ในเดือนกุมภาพันธ์ 2562
มีรายงานแจ้งด้วยว่า ประมูลการสำรวจและผลิตแหล่งปิโตรเลียม เป็นระบบสัญญาแบ่งปันผลผลิต (พีเอสซี) แปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยหมายเลข G1/2561 (แหล่งเอราวัณ)จะหมดอายุสัมปทานปี 2565 และ G2/2561 (แหล่งบงกช) หมดอายุสัมปทานในปี 2566 คาดว่าการประมูลแหล่งเอราวัณ-บงกช ครั้งนี้คาดว่าการพัฒนา 2 แหล่งนี้จะสร้างผลประโยชน์ให้รัฐในรูปค่าภาคหลวง ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม และส่วนแบ่งกำไร ประมาณ 800,000 ล้านบาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี