นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ได้มีการหารือถึงความคืบหน้าของการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจ (เรกกูลาทอรี่
กิโยติน) ที่ก่อนหน้านี้ได้ประชุมร่วมกับนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยล่าสุดคณะทำงานด้านกฎหมายของ กกร.ได้นำเสนอแผนการปรับปรุงกฎหมายมาแล้ว เช่น วิธีการทำงาน การกำหนดกรอบของงาน แนวทางเร่งด่วนที่ต้องผลักดัน เป็นต้น และเตรียมนำความคืบหน้าหารือในการประชุม กกร.ครั้งต่อไปในเดือนมกราคม 2562และอาจมีการเชิญนายกอบศักดิ์ เข้าประชุมเพื่อรับทราบความคืบหน้าในครั้งต่อไปด้วย
“การปรับปรุงกฎหมาย เรื่องการตัดบทบัญญัติหรือกฎหมายที่มีความซ้ำซ้อนกันออกไปถือเป็นหนึ่งในมาตรการ อีส ออฟ ดูอิ้ง บิสสิเนส หรือการเพิ่มความสะดวกในการทำธุรกิจ ทำให้วิธีการทำงานรวดเร็วขึ้น โดยกฎหมายที่ซ้ำซ้อนกันนี้มีจำนวนมากถึงหลักแสน แต่ต้องการจะตัดให้เหลืออย่างน้อยหลักพัน เพื่อให้การทำงานสะดวกรวดเร็วขึ้น โดยในหลักการจะต้องทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายกระทรวง เช่น กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงแรงงาน ตลอดจนกฎหมายเก่าที่ซ้ำซ้อนกับกฎหมายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เป็นต้น” นายสุพันธุ์ กล่าว
นอกจากนี้ กกร.ยังยืนยันที่จะให้มีการจัดการประชุมร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) ส่วนกลาง โดยที่ผ่านมามีคณะกรรมการใน กกร.ได้ส่งสัญญาณถึงรัฐบาลแล้ว และทราบว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี มีความเห็นพ้องกับเอกชน แต่คาดว่าคงจะต้องมีการหารืออย่างเป็นทางการต่อไป
“ที่ผ่านมามีการประชุม กรอ.เฉพาะในส่วนของภูมิภาค ซึ่งการประชุมในส่วนภูมิภาคกับส่วนกลางอาจจะมีหัวข้อหรือประเด็นที่ไม่เหมือนภูมิภาค ซึ่งเท่าที่ทราบมาภาครัฐก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เช่นกัน” นายสุพันธุ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี