นายศักดิ์ดา พรรณไวย รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายธุรกิจและการเงิน บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน)ผู้บริหารโทลล์เวย์ เปิดเผยว่า ทางบริษัทมีความสนใจที่จะเข้าร่วมประมูลงานระบบบริหารงาน และซ่อมบำรุงตามที่ขณะนี้ทางภาครัฐได้มีนโยบายขับเคลื่อนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของประเทศและเปิดให้เอกชนเข้าร่วมลงทุน(PPP) ได้แก่ โครงการทางด่วนพระราม 3-ดาวคะนอง,โครงการดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางปะอิน-นครราชสีมา และสายบางใหญ่-กาญจนบุรี โดยคาดว่าโครงการทั้งหมดจะมีการเปิดประมูลในปี 2562
สำหรับโครงการทางด่วนพระราม 3-ดาวคะนอง โครงการนี้ใช้เงินลงทุน 30,000 ล้านบาท, โครงการดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางปะอิน-นครราชสีมา วงเงินลงทุน 33,000 ล้านบาท และสายบางใหญ่-กาญจนบุรี ลงทุนประมาณ 28,000 ล้านบาท
นายศักดิ์ดา กล่าวว่า นอกจากนี้บริษัทสนใจในโครงการดังกล่าวแล้วยังให้ความสนใจโครงการอื่นๆอีกเช่น โครงการขยายโทลล์เวย์ช่วงรังสิต-บางปะอิน ระยะทาง 18 กิโลเมตร วงเงินประมาณ 30,000 ล้านบาท และโครงการทางยกระดับช่วงบางขุนเทียน-วังมะนาว เป็นต้น รวมถึงยังมีความสนใจที่จะศึกษาแนวทางการร่วมลงทุนกับบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน)หรือ ทอท. เพื่อก่อสร้างทางยกระดับเชื่อมต่อสนามบินกับทางด่วนโทลล์เวย์ ระยะทาง 500 เมตร วงเงินไม่เกิน 1,000 ล้านบาท เพราะสามารถแก้ไขปัญหาการจราจรหน้าสนามบินและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนและส่งเสริมการท่องเที่ยวอีกด้วย
ทั้งนี้ในส่วนของการนำระบบเทคโนโลยีระบบจัดเก็บเงินค่าผ่านทางแบบไร้เงินสดที่จะนำมาใช้บนโทลล์เวย์ในอนาคตนั้นก็จะเริ่มเห็นความเปลี่ยนเเปลงในอนาคตอันใกล้ไปสู่การใช้ระบบเก็บเงินสดแบบไร้ไม้กั้น (Multi-lane free flow) ซึ่งการทำงานจะมีการถ่ายป้ายทะเบียนเพื่อหักเงินจากกระเป๋าเงินออนไลน์ (E-wallet) บัญชีธนาคารและแอพพลิเคชั่น เป็นต้น เพื่อแก้ปัญหารถติดหน้าด่านบนโทลล์เวย์ ซึ่งทางบริษัทได้ทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากญี่ปุ่นเพื่อวิจัยและพัฒนาระบบจัดเก็บค่าผ่านทางอย่างต่อเนื่องและมองว่าการพัฒนาดังกล่าวจะถูกนำออกมาใช้เร็วขึ้น หากประเทศไทยปรับตัวไปสู่สังคมไร้เงินสดเต็มรูปแบบ
พร้อมคาดการณ์ว่า รายได้ค่าผ่านทางของบริษัทในปี 2561 นี้คาดว่า จะขยายตัวที่ 3% หรือคิดเป็น 3,060 ล้านบาท เมื่อเทียบกับรายได้ของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 2,970 ล้านบาท ส่วนภาพรวมของผู้ใช้ทางด่วนหรือทางยกระดับในปีนี้นั้นพบว่าปริมาณจราจรของทางด่วนในเมืองหลวงขยายตัว 0.5% ขณะที่ทางด่วนระหว่างเมืองขยายตัว 7% ขณะที่ปริมาณจราจรบนดอนเมืองโทลล์เวย์เฉลี่ยเติบโตอยู่ที่ 2-3% ซึ่งมองว่าการจราจรในเมืองถึงจุดอิ่มตัวของปริมาณจราจรบนทางด่วนแล้วส่วนหนึ่งมาจากปัญหาจราจร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี