ll ช่วงนี้มักจะเห็นข่าวหรือบทความเกี่ยวกับ “แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปีหน้า” ออกมาตามสื่อต่างๆ ผ่านการรวิเคราะห์จากหลายหลากสำนัก...ซึ่งก็มีอีกหนึ่งเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับเรื่องทิศทางของเศรษฐกิจไทยในปี 2562 ที่ “เศรษฐศาสตร์วันหยุด” อยากจะนำมาเสนอ....ซึ่งเกิดขึ้นผ่านเวทีเสวนาของสมาคมนิสิตเก่าวิศวกรรมศาสตร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในหัวข้อ “ทิศทางเศรษฐกิจไทยในปีเลือกตั้ง 2562” ...
วิทยากรคนแรกก็ไม่ธรรมดาเพราะท่านคือ...คุณอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง...ที่ได้ตอกย้ำภาพเศรษฐกิจไทยปี 2562 ว่า จะยังเติบโตต่อ จากในปีนี้โดยคาดว่า
ปีหน้าจีดีพีจะขยายตัวได้ 4%...แรงหนุนสำคัญก็มาจากนักลงทุนภาคอุตสาหกรรมเดินหน้าลงทุนเพราะเชื่อมั่นในนโยบายการพัฒนาในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี....ซึ่งเป็นแรงหนุนสำคัญที่เติมพลังให้เศรษฐกิจไทยคึกคักขึ้นอีกครั้ง ต่อยอดจากโครงการสำคัญในอดีตอย่าง “อีสเทิร์น ซีบอร์ด”
ส่วนปัจจัยเสี่ยงภายนอกที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษ คือเรื่องสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน ซึ่งอาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของเศรษฐกิจโลกและไทยก็อาจได้รับผลกระทบบ้างไม่มากก็น้อย ขึ้นอยู่กับการปรับตัวของภาคธุรกิจในประเทศ...โดยเฉพาะการลงทุนทางด้านวิจัยและพัฒนาที่ควรเร่งดำเนินการเพื่อสร้างโอกาสและการแข่งขันให้เกิดขึ้น นำไปสู่การเปลี่ยนแพลตฟอร์มทางด้านเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อให้คนไทยสามารถพัฒนาเป็นคนไทยในยุค 4.0 ให้ได้
นอกจากนี้ ภายในงานเสวนายังมีการเปิดมุมมองอื่นๆที่น่าสนใจ อาทิ เรื่องการลงทุนในเทคโนโลยีต่างๆ ทั้ง AI บิ๊กดาต้า (Big Data) 5G รวมถึงงานวิจัยและพัฒนา (Research and Development) ที่ยังต้องอาศัยภาคการศึกษาในการผลักดันอย่างจริงจัง...อีกเรื่องราวที่พลาดไม่ได้คือประเด็นราคาน้ำมันที่เป็นเรื่องใกล้ตัวคนไทย ซึ่งได้วิทยากรที่เป็นศิษย์เก่าอย่าง “อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บมจ.ปตท.” มาเปิดมุมมองโดยระบุว่า แนวโน้มราคาน้ำมันดิบตลาดโลกในปี 2562 คาดว่าจะเฉลี่ยอยู่ที่ 65-75 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ส่วนราคาขายปลีกน้ำมันสำเร็จรูปเฉลี่ยจะใกล้เคียงกับปีนี้ที่อยู่ระดับ 25-30 บาทต่อลิตร แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับนโยบายการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง และการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตจากรัฐบาลเป็นสำคัญ...พร้อมทั้งยอมรับว่าธุรกิจค้าปลีกน้ำมันในประเทศมีการแข่งขันสูงหลังจากได้มีการเปิดเสรีด้านพลังงาน...ทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจน้ำมันมีการขยายธุรกิจนอกเหนือจากขายน้ำมันเพียงอย่างเดียว รวมถึงมีการเปิดสถานีบริการน้ำมันขนาดใหญ่ที่มีการให้บริการแบบครบวงจรมากขึ้น...ซึ่งสำหรับปตท.การเติบโตของ “กาแฟอเมซอน”...สะท้อนภาพได้ชัดเจนว่าจะพึ่งแต่การขายน้ำมันอย่างเดียวไม่ได้...
นอกจากนี้ยังมีวิทยากรท่านอื่นร่วมวงเสวนา อาทิ อัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กานต์ ตระกูลฮุน ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษา บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย ก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.หลักทรัพย์เอเซีย พลัส และ อัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์...ซึ่งต่างก็ได้สะท้อนมุมมองทิศทางเศรษฐกิจและแนวโน้มธุรกิจต่างๆ... ภายใต้แรงกดดันของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วไว้อย่างน่าสนใจ...
“ทั้งหมดนี้ เราได้มีการดำเนินงานที่ก่อให้เกิดการรวมตัวของศิษย์เก่าที่เป็นผู้บริหารระดับสูงทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ในสาขาวิชาชีพต่างๆ เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนมุมมอง และประเมินทิศทางเศรษฐกิจในปี 2562 ซึ่งเป็นปีมีความสำคัญต่อทุกภาคส่วนเพราะมีปัจจัยการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในหลายด้านทั้งการเมืองเศรษฐกิจ...งานเสวนาครั้งนี้เป็นกิจกรรมสำคัญที่ตั้งใจจะสืบสานธรรมเนียมการจัดขึ้นทุกปีเพื่อเป็นเวทีที่ส่งผ่านข้อมูลที่เป็นประโยชน์สู่สังคมต่อไป” สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ นายกสมาคมนิสิตเก่าวิศวกรรมศาสตร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวสรุป
พงษ์พันธุ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี