“อลงกรณ์” ข้องใจถามจุดยืน ครม.จะปฏิรูปภาษีเพื่อความเป็นธรรม หรือเอื้อกลุ่มทุนใหญ่อสังหาริมทรัพย์ หลัง“คลัง”กลับลำกลางคันร่าง“ภาษีลาภลอย”
23 ธ.ค.61 นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) และอดีตรองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ กล่าวว่า ตามที่ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ยืนยันจะไม่ผลักดันกฎหมายภาษีลาภลอย(windfall gain tax) ในชั้นการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาทำให้แปลกใจว่าเหตุใด สศค.จึงกลับลำกลางคันเหมือนโดนยาสั่ง ทั้งที่คณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติเมื่อวันที่ 10 ก.ค.61อนุมัติในหลักการร่างพระราชบัญญัติภาษีการได้รับประโยชน์จากการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของรัฐ พ.ศ... หรือภาษีลาภลอย โดยให้เหตุผลว่าต้องการสร้างความเป็นธรรมระหว่างผู้ได้รับประโยชน์กับรัฐที่ต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และรายได้จากภาษีตรงนี้ทำให้รัฐสามารถนำไปลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติมได้จึงขอถามรัฐบาลว่าจะเดินหน้าออกกฎหมายภาษีลาภลอยต่อไปหรือไม่และถ้ากลับลำด้วยเหตุผลอะไร
“การยกเลิกการตรากฎหมายภาษีลาภลอยกลางคันจะถูกตั้งข้อสงสัยว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับทุนใหญ่ด้านอสังหาริมทรัพย์และนักการเมืองหรือเจ้าหน้าที่รัฐที่กว้านซื้อที่ดินล่วงหน้าในราคาถูกและขายต่อในราคาแพงหรือทำโครงการอสังหาริมทรัพย์ขายได้ราคาสูงและได้เปรียบผู้ประกอบการรายอื่นเพราะต้นทุนต่ำกว่าและยังได้เปรียบประเทศคือไม่ต้องเสียภาษีลาภลอยทั้งที่รัฐลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมด” นายอลงกรณ์ กล่าว
นายอลงกรณ์ กล่าวอีกว่า ภาษีลาภลอย(Windfall Gain Tax) เป็นการจัดเก็บภาษีจากเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ได้รับผลประโยชน์จากโครงการลงทุนของรัฐ เช่น การก่อสร้างรถไฟฟ้า รถไฟ ทางหลวง ท่าเรือ สนามบินและโครงสร้างพื้นฐานต่างๆทำให้ที่ดินหรือโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่รอบข้างมีมูลค่าสูงขึ้นเปรียบเสมือนลาภลอยจากการลงทุนของรัฐที่ใช้งบประมาณจากภาษีประชาชน โดยการจัดเก็บภาษีลาภลอยมีบังคับใช้ในต่างประเทศนานแล้ว ได้แก่ อังกฤษ ฝรั่งเศส โปแลนด์ ฮ่องกง และสหรัฐอเมริกาเพื่อนำเงินส่วนนี้มาพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งที่ต้องใช้เงินในการลงทุนเป็นจำนวนมากเป็นการขยายฐานภาษีที่เป็นธรรมต่อคนไทยทั้งประเทศและเป็นการปฏิรูประบบภาษีให้ทันสมัย
สำหรับร่างกฎหมายภาษีลาภลอยที่ผ่าน ครม.กำหนดให้ผู้ที่เข้าข่ายต้องเสียภาษี ได้แก่ ผู้ขายที่ดินหรือห้องชุดที่ใช้ประโยชน์ในที่ดินเชิงพาณิชย์ มูลค่าสูงกว่า 50 ล้านบาท และผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นเจ้าของห้องชุดรอจำหน่าย ซึ่งอยู่รอบพื้นที่ที่มีโครงการพัฒนาของรัฐโดยมี การจัดเก็บภาษีลาภลอย 3 รูปแบบ ดังนี้
1.เก็บระหว่างดำเนินโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โดยกรมที่ดินจัดเก็บจากการขายหรือเปลี่ยนกรรมสิทธิ์ที่ดินหรือห้องชุดทุกครั้ง ทั้งนี้ การเปลี่ยนมือไม่ใช่เป็นลักษณะการโอนมรดก ซึ่งกรณีการโอนมรดกนั้น จะเข้าข่ายการเสียภาษีมรดกแทน
2.เก็บเมื่อดำเนินโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานแล้วเสร็จแล้ว ซึ่งจะเก็บจากที่ดินหรือห้องชุดที่ใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ที่มีมูลค่าสูงกว่า 50 ล้านบาท ส่วนนี้ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เจ้าของพื้นที่เป็นผู้จัดเก็บ
3.การจัดเก็บภาษีจะมีผลเฉพาะกับโครงการที่เกิดขึ้นใหม่เท่านั้น
ทั้งนี้ ยกเว้นให้กับที่ดินที่ใช้สำหรับเป็นที่อยู่อาศัย และที่ดินทำเกษตรกรรม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี