nn กับเรื่องที่ “หม่อมอุ๋ย-ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล” อดีตรองนายกฯฝ่ายเศรษฐกิจของรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกมา “ทิ้งบอมบ์” 8 เหตุผลที่ไม่ต้องการให้พลเอกประยุทธ์กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหลังการเลือกตั้ง ที่ทำเอา “รัฐบาลคสช.” ที่กำลังเดินสายตีปี๊บนโยบาย“(พลัง)ประชารัฐ”ถึงกับสำลัก! ไม่นึกว่าคน “กากี่นั้ง” ที่เคยร่วมหอลงโลงมาด้วยกันจะลุกขึ้นมา “ดับเครื่องชน”กันแบบนี้...ยิ่งเมื่อคณะกรรมการป.ป.ช.ออกมา“เรียกแขกให้งานเข้า” กับบทสรุปของปม“นาฬิกาเพื่อน” ...ก็ยิ่งทำเอาผู้คนตั้งข้อกังขา อนาคตของ“ประเทศกูมี”จะเดินหน้าไปอย่างไร...จะยังฝากความหวังให้กับองค์กรตรวจสอบป.ป.ช.นี้ได้อยู่หรือ???
8 เหตุผลที่“หม่อมอุ๋ย”ทิ้งบอมบ์“ลุงตู่”จนแทบจะเสียศูนย์นั้น สรุปคร่าวๆก็คือ 1.บริหารประเทศอย่างขาดวินัยทางการคลัง ซึ่งแทบไม่ต้องสาธยายอะไรกัน เพราะนโยบายลดแลกแจกสะบัดที่ทำเอาประชาชนแทบจะสำลักเป็นคำตอบในตัวอยู่แล้ว 2.พยายามลักไก่ตั้ง “บรรษัทน้ำมันแห่งชาติ”หวังย้อนยุค “น้ำมันสามทหาร” 3.ดำเนินนโยบายต่างประเทศผิดพลาด 4.ทำให้คนไทยทั่วไปเห็นว่าทหารมีอภิสิทธิ์เหนือพลเรือน 5.ดำเนินนโยบายเอื้อนายทุนเจ้าของธุรกิจขนาดใหญ่มากเกินไป มีการตั้งบุคคลที่ใกล้ชิดทุนใหญ่เข้าไปนั่งในรัฐวิสาหกิจอย่างบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)หรือทอท.หรือแม้แต่เชิญกลุ่มทุนรายใหญ่เข้าไปล้วงตับนโยบายรัฐถึงขั้นจะประเคนรถไฟความเร็วสูงให้ทั้งสาย เป็นต้น
แม้หลายฝ่ายจะมองว่าเรื่องที่ “หม่อมอุ๋ย”ลุกขึ้นมาทิ้งบอมบ์นั้นเป็นแค่เกมการเมืองหวังดิสเครดิตหรืออาจผิดหวังที่หลุดจากทีมเศรษฐกิจ...แต่หากทุกฝ่ายลองนั่งวิเคราะห์...โครงการเมกะโปรเจกทหลายโครงการ...โดยเฉพาะโครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษอีอีซี...โครงการท่าเรือแหลมฉบัง ระยะ 3มูลค่า 84,000 ล้านบาทศูนย์ซ่อมอากาศยาน 38,870 ล้านบาท โครงการรถไฟความเร็วสูง....ฯลฯ ปฏิเสธไม่ได้ว่าแต่ละโครงการนั้นล้วนแล้วแต่มีกลุ่มทุนการเมืองที่ใกล้ชิดรัฐบาลเข้ามาพัวพัน....
โครงการลงทุนในอีอีซีอีก 4-5 โครงการมูลค่ากว่า 5 แสนล้านบาท ที่กำลังทยอยเปิดประมูลตามมานั้น...ล้วนแล้วแต่ “เข้าทางทุนใหญ่”และทุกโครงการล้วนหอบเอาเม็ดเงินภาษีของรัฐไปลงทุนก่อนประเคนโครงการให้เอกชนเข้ามารับสัมปทานไป 30-50 ปี...และเมื่อกระทรวงการคลังเพิ่งมุบมิบแก้ไขกฎหมายสัมปทาน “พีพีพี56” ล่าสุด โดยกำหนดโครงการที่เข้าข่ายต้องดำเนินการตาม พ.ร.บ.ร่วมลงทุนฯปี’56 ที่ต้องเป็นโครงการสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน 11 ประเภทเท่านั้น หากเป็นโครงการในเชิงพาณิชย์อื่นๆ ก็ไม่ต้องลากเข้ามาให้ยุ่งยาก มันก็ยิ่งเข้าเค้า!!...เพราะเมื่อเร็วๆนี้ ทอท.ที่ตั้งแท่นจะประมูลโครงการร้านปลอดภาษี “ดิวตี้ฟรี” และสัมปทานร้านค้าเชิงพาณิชย์ในสนามบินสุวรรณภูมิ หากเป็นไปตามไทม์ไลน์ที่คลังตั้งแท่นแก้ไขกฎหมายนี้ ก็มีหวังทอท.จะกระเตง 2 โครงการดังกล่าวหนีกม.พีพีพี สบายใจเฉิบแน่ เพราะเป็น Non-Aero ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจการบินหรือสนามบินใดๆ....หากเป็นไปตามนี้ใครจะนอนมา หากไม่ใช่“เจ้าพ่อดิวตี้ฟรี” ที่“หม่อมอุ๋ย” ออกมาสำทับก่อนหน้านี้ว่า แอบตั้งคนใกล้ชิดธุรกิจยักษ์เข้าไปนั่งอยู่ในบอร์ดทอท.มาตั้งแต่ปีมะโว้แล้ว...จริงไม่จริง!!!
พงษ์พันธุ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี