nn อย่างที่บอกไว้วานนี้ใน “หมุนตามทุน” ว่าวันนี้ใน “โลกการค้า” จะมาว่ากันต่อเรื่อง... อุตสาหกรรมเหล็กไทย...วินาศสันตะโรกันก็คราวนี้แล....ด้วยเหตุที่ว่า...คณะกรรมการพิจารณามาตรการปกป้อง....ที่มีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน...กำลังจะยุติการขยายเวลาการบังคับใช้มาตรการปกป้องจากการนำเข้าสินค้า (เซฟการ์ด) เหล็กแผ่นรีดร้อนเจืออื่นๆ ชนิดม้วนและไม่เป็นม้วน...
คืออย่างนี้ครับ...ด้วยข้ออ้างที่...คณะกรรมการพิจารณามาตรการปกป้อง...บอกว่าการที่ประเทศไทยใช้มาตรการเซฟการ์ดกับสินค้าเหล็กฯถือว่าจะปิดประเทศหรือไง...“โลกการค้า” ก็เลยอยากเรียนกลับไปอย่างนี้ว่า...ตอนนี้ไทยนำเข้าเหล็กกลุ่มนี้อยู่ 5 ล้านตันต่อปี...มันปิดประเทศตรงไหน???...และขนาดว่าไทยใช้มาตรการเซฟการ์ด...ปริมาณการนำเข้าเหล็กก็ยังเพิ่มขึ้นทุกปี...
ส่วนกรณีที่เกรงว่าจะถูกต่างประเทศตอบโต้ทางการค้านั้น...เราเองก็สามารถฟ้องต่อ WTO ได้ตามกระบวนการระงับข้อพิพาท...และตอนนี้ก็ยังไม่ได้ถูก เกาหลีใต้ อียิปต์ ตุรกี...แสดงท่าทีใดๆ ที่จะตอบโต้เรา...ทั้งที่ประเทศเหล่านี้ก็รู้อยู่แล้วว่ามีความเป็นไปได้ว่าไทยอาจจะขยายเวลาบังคับใช้มาตรการเซฟการ์ด...ก็เลยไม่เข้าใจ...ว่าท่านประธานคณะกรรมการพิจารณามาตรการปกป้อง...กลัวอะไร???...ตีตนไปก่อนไข้หรือเปล่า....??? และดูเหมือนว่าท่านประธานฯจะดูแคลนฝีมือ...กรมการค้าต่างประเทศ.... กรมเจรจาการค้า...ของไทยเกินไปไหมครับ...
หากวันนี้ไทยตัดสินใจ...ยุติการขยายเวลาการบังคับใช้มาตรการปกป้องจากการนำเข้าสินค้า (เซฟการ์ด) เหล็กแผ่นรีดร้อนเจืออื่นๆ ชนิดม้วนและไม่เป็นม้วน...จนเริ่มเห็นความเสียหายต่ออุตสาหกรรมในประเทศอย่างรุนแรง...ก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อยอีก 3 ปี กว่าจะประกาศใช้ เซฟการ์ด ได้อีก...ถึงเวลานั้นแม้แต่ซากก็จะไม่เหลือไว้ให้ปกป้องแล้ว...
โลกการค้า....ไม่รู้จะให้คะแนนกับ...ผลงานของคณะกรรมการพิจารณามาตรการปกป้อง...อย่างไรดี...นอกจากเหล็กรีดร้อนที่กำลังจะตายไปต่อหน้าต่อตาแล้ว....ก่อนหน้านี้สดๆ ร้อนๆ...จากผลที่ล้มภาษีตอบโต้การทุ่มตลาด (AD)...สำหรับเหล็กเคลือบสังกะสี...ทำให้ผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ของไทยที่อยู่มากว่าครึ่งศตวรรษอย่าง เครือกรุงเทพผลิตเหล็ก...ก็ลดพนักงานไป 700-800 คน...!! เป็นไงล่ะครับท่านประธาน คนไทยตกงานไปอีกเกือบพันคน....คนไทยเกือบพันครอบครัว...ไม่มีรายได้อีกแล้ว....พ่อแม่ลูกเมียของคนไทยกลุ่มนั้นจะเดือดร้อนไปด้วยไหม..???
ยังยังไม่จบ....ไม่ใช่ว่ามีแค่เพียงเหล็ก 2 ชนิด(เหล็กรีดร้อน...เหล็กเคลือบสังกะสี) ของคนไทยที่กำลังจะตาย...ที่กำลังจะตายตามกันไปเร็วนี้ก็คือ...เหล็กเส้น...เพราะว่าเหล็กเส้นของไทยที่ใช้เตาหลอมแบบ “อาร์คเฟอร์เน็ต”...กำลังจะตายเพราะถูกเหล็กเส้นจากเตา “อินดรัคชั่นเฟอร์เน็ต”...ซึ่งถูกประเทศจีนสั่งปิดโรงงานประเภทนี้ไปเนื่องจาก “ก่อให้เกิดปัญหามากมาย” เพราะเป็นเทคโนโลยีที่เก่าและล้าสมัย....เข้ามาแย่งตลาด...ด้วยการที่ดัมพ์ราคาขาย...ซึ่งเหตุที่ต้องทำอย่างนั้นเพราะคุณภาพเหล็กที่ผลิตได้นั้นมีคุณภาพต่ำกว่า....แต่เมื่อมีได้เปรียบที่มีต้นทุนต่ำ...ก็เลยต้องใช้วิธีดัมพ์ราคาสู้กับเหล็กของไทยที่ผลิตจากเตา “อาร์คเฟอร์เน็ต”...
และตอนนี้ปัญหาของ “เหล็กเส้น” กำลังจะหนักหนาสาหัสขึ้นอีก เมื่อโรงเหล็กอินดักชั่นเฟอร์เน็ตจากจีน...ที่เข้ามาลงทุนในไทย...พยายามจะเพิ่มกำลังการผลิตให้ได้เป็นปีละล้านกว่าตัน...ซึ่งตอนนี้อยู่ในกระบวนการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็น(ประชาพิจารณ์)...!! ตอนนี้คนในวงการเหล็กเส้นก็รู้กันดีว่า...โรงเหล็กเส้นรายนี้...มีโควตาผลิตอยู่ที่ 2 แสนตันต่อปี...แต่ผลิตจริงอยู่ที่ 5-6 แสนตัน...!! ไม่รู้กรมโรงงานอุตสาหกรรม สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม(สมอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม...รู้เรื่องรู้ราวอะไรกับเขาบ้างไหม....!! จำได้ว่าก่อนหน้านี้...กระทรวงอุตสาหกรรมเอง...ก็เข้าใจในประเด็นปัญหาเรื่องคุณภาพเหล็กจากเตาอินดักชั่นฯ...และก็บอกกับสังคมว่า...จะเข้มงวดเรื่องมาตรฐาน มอก.ของเหล็กชนิดนี้....!! เอาเข้าจริงตอนนี้...สมอ.ได้ทำหน้าที่ของตัวเองมากแค่ไหน....
เอาล่ะมาถึงบทสรุป...ที่ว่ารัฐบาลจะใช้ภาคเศรษฐกิจในประเทศ...เป็นตัวประคับประคองให้เศรษฐกิจไทย...สามารถรับมือผลกระทบจากภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก...โลกการค้า....นึกไม่ออกว่าจะทำกันอีท่าไหน...เพราะตอนนี้เท่าที่เห็น...ภายใต้รัฐบาลชุดนี้...อุตสาหกรรมเหล็กในประเทศกำลังพังพินาศ...!! และหากว่าหน่วยงานราชการของไทย...ยังเห็นคุณค่าของนักลงทุนต่างชาติมากกว่านักลงทุนไทย...ก็จะมีอีกหลายธุรกิจล้มหายตายจากไปภายใต้การบริหารของรัฐบาลชุดนี้....
กระบองเพชร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี