นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยผลการจัดเก็บภาษีสรรพากรสะสมในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปีงบประมาณ 2562 (ตุลาคม - ธันวาคม 2561) ว่า เก็บได้ 412,391 ล้านบาท สูงกว่า ปีก่อน 41,709 ล้านบาท หรือร้อยละ 11.3 และสูงกว่าประมาณการจัดเก็บภาษีสรรพากรตามเอกสารงบประมาณ 28,006 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.3
สำหรับสาเหตุที่การจัดเก็บภาษีสรรพากรสูงกว่าประมาณการเอกสารงบประมาณ ในไตรมาส 1 ปีงบประมาณ 2562 เนื่องจากการขยายตัวของการนำเข้าและราคาน้ำมันเฉลี่ยที่สูงขึ้นได้ส่งผลดีต่อการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT)จากการนำเข้า อีกทั้งมีปัจจัยสนับสนุนอื่นๆ ที่ส่งผลให้การจัดเก็บภาษีสรรพากรเพิ่มขึ้น ได้แก่ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง
อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีงบประมาณ 2562 กรมสรรพากรได้มีมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษี โดยนำเทคโนโลยี Data Analytics มาช่วยวิเคราะห์ เพื่อหาผู้ประกอบการรายใหม่ซึ่งอยู่นอกระบบ บูรณาการข้อมูลภายในและภายนอก เพื่อเชื่อมโยงไปยังรายได้ ที่แท้จริงของผู้ประกอบการ ปรับปรุงระบบการคัดเลือกผู้เสียภาษีเพื่อกำกับและตรวจสอบ (Risk Base Audit System: RBA) เพื่อให้ระบบมีความสมบูรณ์ครบถ้วน และปรับปรุงระบบ Criteria เพื่อคัดกรองรายผู้ประกอบการที่มีความผิดปกติให้หน่วยปฏิบัติตรวจสอบข้อเท็จจริงและแนะนำภาษีอากรต่อไป รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพในการเร่งรัดหนี้ภาษีอากร
“จากผลจัดเก็บภาษีสรรพากรในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2562 ทำให้คาดว่า ในปีงบประมาณ 2562 กรมสรรพากรจะสามารถจัดเก็บได้ตามเป้าหมายจัดเก็บตามเอกสารงบประมาณ 2562 จำนวน 2,000,000 ล้านบาท โดยกรมสรรพากรจะเร่งนำเทคโนโลยีมาช่วยในการทำงาน เพื่อขยายฐานภาษีและสร้างความสมัครใจในการเสียภาษี ช่วยให้การจัดเก็บภาษีของกรมสรรพากรมีประสิทธิภาพต่อไป”อธิบดีกรมสรรพากร กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี