นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทอาลีบาบา กรุ๊ป เตรียมประกาศแผนร่วมทุนกับบริษัท ดับบลิว เอช เอ คอร์ปอเรชั่น หรือ WHA ในโครงการอี-คอมเมิร์ซปาร์ค ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นพื้นที่ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) ทั้งนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาสรุปแผนรายละเอียดและเม็ดเงินลงทุนขั้นสุดท้าย โดยเร็วๆ นี้จะมีการประกาศอย่างเป็นทางการ ซึ่งการลงทุนครั้งนี้นับเป็นนโยบายที่รัฐบาลผลักดันให้เกิดขึ้นเพื่อสนับสนุนให้ธุรกิจไทยที่เป็นรายกลางและเล็ก(เอสเอ็มอี) เข้าถึงบริการอี-คอมเมิร์ซ เพื่อเพิ่มช่องทางการค้ามากขึ้น
“โครงการอี-คอมเมิร์ซ ปาร์ค อาลีบาบา ได้มีข้อตกลงกับรัฐบาลไทยในการพัฒนาผู้ประกอบการไทยโดยเฉพาะผู้ประกอบการใหม่หรือสตาร์ทอัพเกี่ยวกับการทำตลาดออนไลน์และจะช่วยยกระดับราคาสินค้าเกษตรให้เข้าสู่ตลาดโลกมากขึ้น ซึ่งอาลีบาบาจะจัดอบรมทำโปรแกรมพิเศษให้ผู้ประกอบการไทยสนใจ รวมถึงการสนับสนุนงานวิจัยและพัฒนา หรือ R&D “นายอุตตมกล่าว
ส่วนความคืบหน้าโครงการระเบียงผลไม้ภาคตะวันออก(EFC) เพื่อเป็นตลาดกลางซื้อขายผลไม้ใน อีอีซี ซึ่งจะตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมสมาร์ทพาร์ค จังหวัดระยอง ซึ่งก่อนหน้านั้นได้มอบให้ศึกษารูปแบบ การตลาด มีจริงหรือไม่ล่าสุดได้ข้อสรุปว่ามีโอกาสของการพัฒนาผลไม้หลัก เช่น ทุเรียน ถ้ามีระบบห้องเย็นจะรักษาคุณภาพเพื่อจำหน่ายไปยังต่างประเทศได้มากขึ้น ดังนั้น จึงมอบหมายให้ไปหารือกับผู้ที่สนใจจะลงทุนอาทิ บมจ.ปตท. ธนาคารกรุงไทย เครือเอสซีจี นักลงทุนในพื้นที่ นักลงทุนที่สนใจจากต่างประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น เป็นต้น
ทั้งนี้ได้มอบหมายให้นายพสุ โลหารชุน ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม หารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อสรุปความชัดเจนภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ โดยเฉพาะเม็ดเงินลงทุน สัดส่วนการร่วมลงทุนซึ่งเบื้องต้นทางสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยได้เสนอให้เป็นรูปแบบรัฐร่วมภาคเอกชน(PPP) โดยคาดหากทุกอย่างดำเนินตามขั้นตอนที่วางไว้จะเห็นการลงทุนได้ภายในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้
“กรุงไทยเขาสนใจที่จะร่วมลงทุนด้วยแต่รายละเอียดยังคงต้องไปดูซึ่งรูปแบบ PPP ทางเอกชนก็เสนอเพราะจะมีความคล่องตัวมากกว่าในการบริหาร ผมก็ฝากปตท.ไปดูในเรื่องเทคนิคอลที่เกี่ยวข้องกับระบบความเย็นซึ่งจะต้องเกี่ยวข้องกับระบบท่อก๊าซธรรมชาติ และอาจจะต้องเป็นในส่วนของการนำความเย็นมาจากก๊าซธรรมชาติเหลว(แอลเอ็นจี) หรือไม่อย่างไร โดยต้องการให้เกิดความยั่งยืนมากสุด” นายอุตตมกล่าว
ขณะที่ในการหารือร่วมกับรมว.อุตสาหกรรมและการค้าของรัสเซียเมื่อเร็วๆ นี้ว่า ทางนักลงทุนรัสเซียให้ความสนใจที่จะลงทุนด้านอุตสาหกรรมอากาศยาน และอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ หรือ Bio Economy จึงต้องการให้รัฐบาลไทยเป็นตัวกลางประสานกับนักลงทุนไทยที่เชี่ยวชาญในเรื่องดังกล่าวเพื่อให้เกิดความร่วมมือกันซึ่งเรื่องดังกล่าวได้มอบหมายให้นายสมชาย หาญหิรัญ รมช.อุตสาหกรรม ทำหน้าที่การประสานงานเพื่อให้เกิดความร่วมมือต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี