มาสด้า ปลื้มยอดจำหน่ายทะลุ 7 หมื่นคัน มั่นใจปี 2562 ตลาดรถยนต์คึกคักกว่าทุกๆ ปีที่ผ่านมาเตรียมเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่เสริมทัพอีก 6 รุ่นทั้งรถเก๋ง รถอเนกประสงค์ และรถครอสโอเวอร์ ชูมาพร้อมดีไซน์ใหม่ เทคโนโลยี SKYACTIV-X และHybrid พร้อมปรับโฉมโชว์รูมและศูนย์บริการให้เสร็จสมบูรณ์ภายในปีนี้ ตั้งเป้าสิ้นปียอดขายมากกว่า 75,000 คัน
นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดรถยนต์ในปี 2561 ที่ผ่านมา มาสด้ามียอดขายรวมทะลุถึง 70,475 คัน เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 37% โดยเฉพาะรถมาสด้า2 ขึ้นแท่นครองอันดับหนึ่งตลาดรถเก๋งเล็ก ด้วยยอดขาย 45,972 คัน เพิ่มขึ้น 45% ในขณะที่รถอเนกประสงค์ CX-5 ยอดขายสูงสุดในประวัติศาสตร์ 8,184 คัน เพิ่มขึ้น 69% รถปิกอัพ บีที-50 โปรยอดขาย 7,498 คัน เพิ่มขึ้น 26% ส่งผลให้มาสด้าครองส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 6.7% ซึ่งถือเป็นส่วนแบ่งการตลาดสูงที่สุดของมาสด้าทั่วโลก
“ในปี 2562 คาดว่าตลาดรถยนต์ จะทรงตัวหรือเติบโตขึ้นเล็กน้อย โดยประมาณการตัวเลขอยู่ที่ 1.03-1.06 ล้านคัน ส่วนยอดขายมาสด้ามองว่าปีนี้ จะมากกว่า 75,000 คัน เติบโต 5-10% ส่วนการตลาดมากกว่า 6.7% โดยปีนี้ยังคงเน้นการบริการลูกค้า ทั้งก่อนและหลังการขาย ด้วยการเสริมศักยภาพของทีมงานในองค์กร รวมถึงทีมงานของผู้จำหน่าย และในปีนี้มาสด้าจะทำการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ เข้าสู่ตลาดมากถึง 6 รุ่น ซึ่งมาพร้อมกับรูปลักษณ์การออกแบบจาก โคโดะ ดีไซน์ เจนเนอเรชั่น 2 และเทคโนโลยีสกายแอ๊กทีฟใหม่”
มร.อัตสึชิ ยาซูโมโต้ รองประธานบริหารอาวุโส กล่าวว่า “ประเทศไทยถือเป็นตลาดหลักที่สำคัญของมาสด้า ด้วยยอดขายอันดับ 1 ในภูมิภาคอาเซียน ที่สำคัญ มาสด้า มอเตอร์ ยังคงให้การสนับสนุน มาสด้า ประเทศไทย อย่างต่อเนื่องในทุกด้าน ทั้งการลงทุนและเทคโนโลยี และในปีนี้มาสด้ากำลังจะก้าวไปสู่รถยนต์ในเจเนอเรชั่นที่ 7 และการมาของเครื่องยนต์ใหม่ล่าสุด SKYACTIV-X ซึ่งเป็นการผสมผสานคุณลักษณะเด่นของเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล รวมไว้ด้วยกัน
“ผมคงจะต้องกล่าวถึงเรื่องเทคโนโลยีทางด้านรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ EV โดยเครื่องยนต์ SKYACTIV-X นั้น เราได้ผนวกเทคโนโลยีไฟฟ้าเข้ามาด้วย ซึ่งเราได้คิดตั้งแต่เริ่มกระบวนการพัฒนา หรือ Well-to-Wheel ควบคู่ไปกับการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ผ่านกระบวนการทำงานของรถยนต์ทั้งคัน มาสด้าได้เล็งเห็นปัญหาในเรื่องของภาวะโลกร้อน จึงเป็นที่มาของนโยบาย Sustainable Zoom-Zoom 2030 เพื่อให้โลกยังคงสวยงาม เพื่อผู้คน และสังคมของเรา มีความงดงามและใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข”
ด้านการตลาด นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์รองประธานบริหารฝ่ายการตลาดและรัฐกิจสัมพันธ์ กล่าวว่า “มาสด้าได้ทำการพัฒนาการสื่อสารให้ครบทุกช่องทาง โดยเฉพาะออนไลน์ ให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น เริ่มจากการกำหนดสไตล์ของแบรนด์ หรือ Mazda Brand Style เพื่อเป็นการปูทางไปสู่การมาของรถยนต์มาสด้าเจนเนอเรชั่นที่ 7 โดยเราได้ปรับเปลี่ยนทั้งในส่วนของโลโก้ รูปแบบตัวอักษรทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ รวมทั้งการวางองค์ประกอบของภาพถ่าย และพื้นที่ในการจัดแสดงรถทั้งภายในโชว์รูมและกิจกรรมส่งเสริมการตลาด รวมทั้งจะทำการปรับปรุงเว็บไซต์ใหม่ ซึ่งจะเผยโฉมในเร็วๆ นี้ โดยเว็บไซต์ใหม่นั้นจะมีความเป็นมิตรกับผู้ใช้มากยิ่งขึ้น เสมือนเป็นหน้าต่างที่ให้ผู้ใช้เข้าสู่โลกของมาสด้า อย่างแท้จริง เป็นการร้อยเรื่องราวของแต่ละส่วนให้มีความ smooth น่าใช้งานมากยิ่งขึ้น”
นอกจากนี้ มาสด้าได้เตรียมขยายศูนย์ซ่อมสีและตัวถัง ปัจจุบันเปิดให้บริการไปแล้ว 21 แห่ง ทั่วประเทศ โดยมีเป้าหมายที่วางไว้ในปีนี้ คือ 28 แห่ง และภายในปี 2021 จะเพิ่มขึ้นเป็น 58 แห่ง รวมถึงการปรับปรุงการบริการหลังการขาย ได้แก่ ประสิทธิภาพของช่องซ่อม ราคาอะไหล่ที่สามารถแข่งขันได้ การจัดส่งอะไหล่ต้องรวดเร็ว ปัจจุบันเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีการจัดส่งอะไหล่ถึง 3 ครั้งต่อวัน ส่วนต่างจังหวัดจัดส่ง 1 ครั้ง ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ รวมทั้งการปรับปรุงคุณภาพศูนย์บริการ และประสิทธิภาพบุคลากรของผู้จำหน่ายต้องมีมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี