นายยูตากะ ซานาดะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส นิสสัน มอเตอร์ ภูมิภาคเอเชีย และโอเชียเนีย และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทนิสสัน มอเตอร์ เอเชีย แปซิฟิค จำกัด กล่าวว่า นิสสันยังคงมุ่งเน้นในเรื่องการส่งเสริมความปลอดภัย นวัตกรรมใหม่ และการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมยายนต์ สู่ยุคพลังงานไฟฟ้าอย่างยั่งยืน ซึ่งอาจจะฟังดูเป็นเรื่องของตัวแทนผู้ผลิตยานยนต์ แต่เมื่อมองถึงอนาคตข้างหน้าวิถีชีวิตของคนเอเชียในสังคมเมืองใหญ่ การก้าวสู่ยุครถยนต์พลังงานไฟฟ้า จะเป็นเรื่องที่สร้างผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์อย่างมากมาย
“การพัฒนาของประเทศในเอเชีย เป็นไปอย่างก้าวกระโดด หลายเมืองในภูมิภาคนี้ ยังคงมีการเติบโตอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ผู้ที่อยู่อาศัยในเมือง ต้องเผชิญหน้ากับความท้าทาย ที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง และสาธารณูปโภค รวมถึงการจราจร และปัญหาสภาพอากาศ โดยมีหลักฐานบ่งชี้ว่าคนเดินเท้าที่สัญจรร่วมบนท้องถนน จะได้รับมลพิษที่มีอนุภาคความละเอียดสูงกว่า ผู้คนในยุโรปและอเมริกา สูงถึง 1.6 เท่า โดยร้อยละ 88 ของการเสียชีวิต ของผู้ที่มีรายได้ต่ำถึงปานกลางในเอเชีย มาจากมลพิษทางอากาศ ตามข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (WHO)”
รถยนต์ไฟฟ้า ได้ถูกนำเสนอเพื่อเป็นทางออก ในประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม ที่ในเอเชีย และโอเชียเนีย ข้อมูลจาก Wood Mackenzie บริษัทที่ปรึกษาด้านพลังงานทั่วโลก กล่าวว่า “รถยนต์ไฟฟ้าขนาดกลางทั่วไปสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) ได้ถึง 67% เมื่อเทียบกับรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน ตามกระบวนการวัดประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงโดยรวม หรือ well-to-wheel (ปัจจัยที่เริ่มตั้งแต่การผลิตไฟฟ้า และการขับขี่ยานยนต์ไฟฟ้า)
“จากผลการสำรวจนี้ ผมมีความภาคภูมิใจที่นิสสัน เป็นส่วนหนึ่งของผู้บุกเบิกในยานยนต์ไฟฟ้าของเอเชีย และโอเชียเนีย นิสสันได้ดำเนินการไปสู่การขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าในเอเชียและโอเชียเนีย ในปี 2561 ผ่านกิจกรรมที่มุ่งแสดงความเป็นผู้นำทางความคิด ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์การร่วมกับภาคอุตสาหกรรม การเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า นิสสัน ลีฟ ใหม่ ในตลาดระดับของภูมิภาค 7 แห่ง อาทิ ออสเตรเลีย, ฮ่องกง, มาเลเซีย, นิวซีแลนด์, สิงคโปร์, เกาหลีใต้ และ ไทย ซึ่งนับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2010 นิสสัน ลีฟ ได้เดินทางโดยไม่มีการปล่อยมลพิษมากกว่า 5 พันล้านกิโลเมตร”
นอกจากนี้ ในปีที่ผ่านมายังเป็นบทพิสูจน์อีกปีหนึ่ง ทุกภาคส่วนตระหนักถึงความท้าทายในอนาคตของเอเชีย ได้แสดงให้เห็นถึงการสนับสนุนด้านพลังงานที่ยั่งยืน ทุกรัฐบาลทั่วเอเชียให้การสนับสนุนโดยออกนโยบายสาธารณะสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า เช่น นโยบายส่งเสริมการผลิตรถโดยสารประจำทางที่ใช้พลังงานไฟฟ้าในพม่า และการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเต็มรูปแบบ สำหรับผู้ซื้อรถยนต์ไฟฟ้าในเกาหลี
ในส่วนของประเทศไทย มีโครงการ “แค่ใจก็เพียงพอ หรือ Honor the King’s Legacy” ซึ่งเป็นการสร้างชุมชนให้มีทักษะ ในการรีไซเคิลขยะให้เป็นศิลปะ เพื่อสร้างรายได้ที่ยั่งยืนขึ้น หรือบริษัทจัดส่งพัสดุ เช่น ดีเอชแอล อีคอมเมิร์ซ (DHL eCommerce) เริ่มทดสอบรถยนต์ไฟฟ้าในมาเลเซียและเวียดนามเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ในงานด้านโลจิสติกส์ ให้เป็นศูนย์ภายในปี 2593 หรือ ค.ศ.2050
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี