บริษัท มิตซูบิชิมอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด แจ้งข่าวว่า บริษัท มิตซูบิชิมอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศผลการดำเนินงานประจำปี 2561 ประสบความสำเร็จเหนือกว่าเป้าหมาย และการคาดการณ์โดยมีอัตราการเติบโตสูงกว่าอุตสาหกรรมด้วยยอดจำหน่ายในประเทศรวม 84,560 คัน หรือเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 21.3 เมื่อเทียบกับปี 2560 ทั้งนี้อุตสาหกรรมยานยนต์มีการขยายตัวร้อยละ 19.5 ด้วยจำนวน 1,041,739 คัน ส่วนแบ่งการตลาดของมิตซูบิชิมอเตอร์สประเทศไทยเติบโตขึ้นไปที่ร้อยละ 8.1
มิตซูบิชิไทรทันมีสัดส่วนการจำหน่ายที่ร้อยละ 47 (39,984 คัน) จากยอดจำหน่ายทั้งหมดของมิตซูบิชิมอเตอร์สประเทศไทย ขณะที่รถยนต์ซิตี้คาร์มิตซูบิชิแอททราจ และมิตซูบิชิมิราจ มีสัดส่วนการจำหน่ายร้อยละ 31 (26,085 คัน) มิตซูบิชิปาเจโรสปอร์ตมีสัดส่วนการจำหน่ายร้อยละ 15 (12,982 คัน) อีกทั้งยังครองอันดับ 1 ในผลการศึกษาคุณภาพรถใหม่ในกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์สมรรถนะสูงขนาดใหญ่ในประเทศไทยของ เจ.ดี. พาวเวอร์ ประจำปี 2561 (IQS) และมิตซูบิชิปาเจโรสปอร์ตอีลีทอิดิชั่นซึ่งเป็นรุ่นพิเศษสร้างปรากฏการณ์ด้วยยอดจองราว 2,000 คัน ภายในระยะเวลาเพียง 2 เดือน นับตั้งแต่เปิดตัวที่งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 35 จนสิ้นสุดเดือนมกราคม 2562 สำหรับมิตซูบิชิเอ็กซ์แพนเดอร์ซึ่งประสบความสำเร็จจากการเปิดตัวในประเทศไทยโดยมียอดจำหน่าย 5,509 คัน คิดเป็นร้อยละ 7 ของยอดขายทั้งหมดของมิตซูบิชิมอเตอร์สประเทศไทย
“ความสำเร็จของเราในปี 2561 เกิดขึ้นจากหลายปัจจัยหนึ่งในนั้นคือการนำเสนอรถยนต์ที่มาพร้อมอุปกรณ์ครบครันที่สุดเทคโนโลยีก้าวล้ำหน้าสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมมีความปลอดภัยและขับสนุกรวมถึงการออกแบบที่ล้ำสมัยให้แก่ลูกค้าของเรา”มร.โมริคาซุ ชกกิ กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัทมิตซูบิชิมอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวภายในงานแถลงผลการดำเนินงาน
“กระบวนการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าของเราเริ่มต้นจากบุคลากรของเราโดยในปี 2561 ที่ผ่านมาเราได้เริ่มดำเนินโครงการต่างๆ เพื่อเสริมทักษะ และยกระดับประสิทธิภาพของบุคลากรผลิตภัณฑ์ และบริการที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้านอกจากนี้เรายังได้ดำเนินกิจกรรมการตลาดหลากหลายรูปแบบซึ่งทำให้การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ” มร.ชกกิ กล่าว
มร.ชกกิ กล่าวเสริมว่า ปัจจัยสำคัญที่สร้างความสำเร็จให้แก่มิตซูบิชิมอเตอร์สประเทศไทยยังมาจากการสร้างความพึงพอใจของลูกค้าด้วยการปรับปรุงหลายส่วนงานอย่างเป็นรูปธรรม อาทิ โชว์รูมดีไซน์ใหม่รวมถึงความสำเร็จในการดำเนินโครงการเพื่อพัฒนาทักษะด้านการบริการและการปฏิบัติงานของผู้จำหน่าย
ปัจจัยหนุนผลประกอบการที่สำคัญยังรวมถึงการเปิดตัวรถยนต์ 9 รุ่น ได้แก่ มิตซูบิชิเอ็กซ์แพนเดอร์ใหม่,มิตซูบิชิไทรทันใหม่,มิตซูบิชิแอททราจใหม่,มิตซูบิชิมิราจใหม่,มิตซูบิชิปาเจโรสปอร์ตใหม่,มิตซูบิชิมิราจ และแอททราจลิมิเต็ดเอดิชั่น,มิตซูบิชิไทรทันแอทลีทเมกะแค็บและมิตซูบิชิปาเจโรสปอร์ตอีลีทเอดิชั่น
อีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยส่งเสริมความสำเร็จ คือ Advanced “Dynamic Shield” เอกลักษณ์ด้านการออกแบบของมิตซูบิชิมอเตอร์สที่ถูกถ่ายทอดไว้ในรถรุ่นใหม่ล่าสุดผสานความปลอดภัยเข้ากับดีไซน์ของรถได้อย่างลงตัวรถรุ่นใหม่ล่าสุดของมิตซูบิชิมอเตอร์สจึงมีความโดดเด่นกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกันด้วยเอกลักษณ์เฉพาะของ Advanced “Dynamic Shield” การออกแบบที่เน้นเส้นสายโฉบเฉี่ยวคมชัดนำมาซึ่งดีไซน์รถที่สวยงามและสะท้อนความแข็งแกร่งพร้อมปกป้อง และมอบความปลอดภัย
ขณะที่สโลแกน“เราดูแลคุณแค่ขับ” ของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ก็ได้กลายเป็นที่ยอมรับและครองใจเจ้าของรถยนต์มิตซูบิชิ สโลแกนดังกล่าวสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบริษัท ที่มีต่อการพัฒนาด้านความพึงพอใจลูกค้า นำเสนอการบริการอันเป็นเลิศครอบคลุม 5 มิติ ได้แก่
❑ Genuine Service : พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง
❑ Genuine Parts : มั่นใจได้ในอะไหล่แท้ ราคามาตรฐานที่ช่วยยืดอายุการใช้งานรถยนต์ให้ยาวนานขึ้นและมีการบริหารจัดการอะไหล่เพื่อช่วยลดระยะเวลาในการรอ
❑ Genuine Technicians : บริการโดยทีมงานผู้ชำนาญการที่ผ่านการอบรมและฝึกฝนโดยตรงจากสถาบันการศึกษาและฝึกอบรมมิตซูบิชิมอเตอร์ส (ประเทศไทย)
❑ Genuine Performance : มุ่งมั่นให้บริการเพื่อคงคุณภาพรถยนต์ให้คงสมรรถนะได้อย่างยาวนาน
❑ Genuine Network & Accessibility : สะดวกยิ่งขึ้นด้วย M-Drive แอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนเพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงบริการจากเครือข่ายผู้จำหน่ายทั่วประเทศ
“เราดูแลคุณแค่ขับ” คือหนึ่งในความมุ่งมั่นเพื่อยกระดับความพึงพอใจลูกค้าอย่างไม่หยุดยั้งของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ซึ่งส่งผลให้บริษัท ประสบความสำเร็จจากการจัดอันดับด้านการบริการอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบัน มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 2 ของดัชนีความพึงพอใจด้านบริการงานขาย (CSI) และอันดับที่ 4 ของดัชนีความพึงพอใจด้านการบริการงานขาย (SSI) จากผลการศึกษาโดย เจ.ดี. พาวเวอร์ ประเทศไทย ประจำปี 2561
สำหรับด้านการส่งออกมิตซูบิชิมอเตอร์สประเทศไทยมีอัตราการเติบโตที่ร้อยละ 4.2 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าโดยรถยนต์สำเร็จรูป (BU) และรถยนต์ชิ้นส่วนประกอบ (KD) มียอดส่งออกรวมทั้งหมด 347,000 คัน ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ทั้งนี้การส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป(BU) ไปยังโรงงานประกอบรถยนต์ในอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ รัสเซีย และบราซิลอยู่ที่อัตราคงที่ขณะที่ยอดการส่งออกรถยนต์ชิ้นส่วนประกอบ(KD) เติบโตอย่างก้าวกระโดดถึงร้อยละ 37
และสำหรับด้านการผลิตมิตซูบิชิมอเตอร์สประเทศไทยเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญที่ร้อยละ 11.2 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าด้วยยอดการผลิตทั้งหมด 444,000 คัน
สำหรับปี 2562 มิตซูบิชิมอเตอร์สประเทศไทยจะยังคงให้ความสำคัญกับการเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดโดยจะได้แรงขับเคลื่อนจากยอดจำหน่ายของมิตซูบิชิไทรทันใหม่และมิตซูบิชิเอ็กซ์แพนเดอร์ใหม่พร้อมเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่อีก 7 รุ่น
มิตซูบิชิมอเตอร์สประเทศไทยยังมุ่งเน้นปัจจัยแห่งความสำเร็จ 3 ด้าน อย่างต่อเนื่องครอบคลุมทั้งการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยมการให้ความสำคัญกับลูกค้าและปรับปรุงเครือข่ายผู้จำหน่าย และการเพิ่มทักษะของบุคลากรเพื่อการสร้างความพึงใจสูงสุดแก่ลูกค้าผ่านเครือข่ายผู้จำหน่ายทั้ง 223 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งจะดำเนินการปรับโฉมใหม่ให้เสร็จสิ้นภายในปี 2564
แม้ทิศทางของอุตสาหกรรมยานยนต์ในปี 2562 ได้รับการคาดการณ์ว่าจะเติบโตแบบทรงตัว อย่างไรก็ตาม มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยังแสดงความเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยมต่อศักยภาพและอนาคตของประเทศไทย ซึ่งเป็นศูนย์การดำเนินงานที่ใหญ่ที่สุดของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส นอกประเทศญี่ปุ่น ด้วยกำลังการผลิตที่สูงถึงเกือบร้อยละ 30 ของกำลังการผลิตในระดับโลกทั้งหมดของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส อีกทั้งยังได้รับการยอมรับว่ามีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อการเติบโตของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และในระดับโลก
ด้านการดำเนินงานในระยะกลาง มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ตั้งเป้าหมายด้านส่วนแบ่งทางการตลาดไว้สูงกว่าร้อยละ 10 ด้วยการนำเสนอยานยนต์คุณภาพ การพัฒนาเครือข่ายผู้จำหน่ายและความพึงพอใจลูกค้า ตลอดจนความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยียานยนต์พลังงานไฟฟ้า โดยบริษัทคาดหวังว่า จะได้รับอนุมัติการส่งเสริมการผลิตครอบคลุมรถไฟฟ้าประเภทพลังงานแบตเตอรี่ (EV) และปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ในเร็วๆ นี้
มร.ชกกิกล่าว ปิดท้ายด้วยการเชิญชวนให้ลูกค้าทั่วประเทศได้มาสัมผัสกับรถยนต์มิตซูบิชิอย่างใกล้ชิดด้วยตนเอง
“ไม่มีอะไรจะสร้างความประทับใจได้ดีไปกว่าการที่ลูกค้าได้มาสัมผัสกับรถยนต์และการบริการจากมิตซูบิชิมอเตอร์สประเทศไทยด้วยตัวเองด้วยความครบครันทั้งด้านดีไซน์และเทคโนโลยีอันก้าวล้ำพร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและสมรรถนะที่เป็นเลิศท่านจะเข้าใจว่าเหตุใดเราจึงได้รับรางวัลต่างๆ รวมไปถึงการจัดอันดับให้เป็นผู้นำทั้งด้านการบริการลูกค้าและงานขายรวมถึงด้านคุณภาพผลิตภัณฑ์” มร.ชกกิ สรุป
- เกี่ยวกับ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย
บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ศูนย์การผลิตที่ใหญ่ที่สุดของกลุ่มมิตซูบิชิ มอเตอร์ส และยังเป็นศูนย์กลางการส่งออกรถยนต์มิตซูบิชิ ไปยังกว่า 120 ประเทศทั่วโลก ทั้งนี้
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย คือ หนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของประเทศไทยที่มีความมุ่งมั่นในการผลิตและจำหน่ายรถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและมีคุณภาพสูง เพียบพร้อมด้วยสมรรถนะ ความปลอดภัย ความสะดวกสบายและเทคโนโลยีเพื่อความพึงพอใจของลูกค้า
ในปี พ.ศ. 2561 มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทยฉลองการผลิตรถยนต์ครบ 5 ล้านคัน และได้เปิดทำการ สถาบันการศึกษาและฝึกอบรม มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) อย่างเป็นทางการที่ จ.ปทุมธานี
ผลิตภัณฑ์ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทยประกอบด้วย มิตซูบิชิ ไทรทัน มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต มิตซูบิชิ แอททราจ มิตซูบิชิ มิราจ และมิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านคุณภาพสูงสุด มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทยใช้สนามทดสอบสมรรถนะในอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ในการประเมินผลิตภัณฑ์ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบและการพัฒนารถต้นแบบไปจนถึงการทดลองผลิตและการผลิตเพื่อจัดจำหน่าย ซึ่งสร้างความมั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับรถยนต์ที่มีคุณภาพสูงสุด
สำหรับลูกค้าที่สนใจชม หรือทดลองขับรถยนต์มิตซูบิชิรุ่นต่างๆ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ผู้จำหน่ายรถยนต์มิตซูบิชิทั่วประเทศ หรือ มิตซูบิชิ คอลเซ็นเตอร์ หมายเลขโทรศัพท์ 0-2079-9500 วันจันทร์-วันอาทิตย์ ระหว่างเวลา 08.30-17.00 น.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี