นางสาวนฤภัทร อมรโฆษิต เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.)มีมติให้คงค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ(Ft) สำหรับการเรียกเก็บในบิลค่าไฟกับประชาชนประจำเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2562 จำนวน -11.60 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเมื่อรวมกับค่าไฟฐานอยู่ที่ 3.6396 บาทต่อหน่วย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ไม่เปลี่ยนแปลงจากงวดก่อนเพื่อบรรเทาค่าครองชีพของประชาชน
หากคำนวณค่า Ft ภายใต้สมมุติฐานประมาณการช่วงพฤษภาคม-สิงหาคม 2562จะส่งผลให้ค่า Ft ช่วงดังกล่าวต้องปรับขึ้น 7.40 สตางค์ต่อหน่วยหรือค่า Ft จะอยู่ที่ -4.20 สตางค์ต่อหน่วย หรือทำให้ค่าไฟเฉลี่ยที่ผู้ใช้ไฟจะต้องจ่ายรวมค่าไฟฐานอยู่ที่ 3.7136 บาทต่อหน่วย(ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) กกพ.จึงมีนโยบายนำเงินที่ได้จากการบริหารประสิทธิภาพการดำเนินงานของ 3 การไฟฟ้าโดยเฉพาะเงินที่ลงทุนไม่เป็นไปตามในปี 2561 วงเงิน 4,576 ล้านบาท มาดูแลทำให้ค่า Ftคงเดิมเพื่อไม่ให้กระทบประชาชนท่ามกลางสถานการณ์ราคาน้ำมันและค่าเงินบาทผันผวน
ส่วนค่า Ft งวดหน้า(กันยายน-ธันวาคม 2562)จะต้องติดตามปัจจัยสำคัญๆ ได้แก่ ค่าเชื้อเพลิงโดยเฉพาะราคาก๊าซธรรมชาติที่จะสะท้อนจากราคาน้ำมันย้อนหลัง 6-12 เดือน ซึ่งยอมรับว่าราคาน้ำมันช่วงนี้มีความผันผวน เช่นเดียวกับอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทโดยหากเป็นไปในทิศทางแข็งค่าก็จะส่งผลดีต่อต้นทุนการซื้อไฟต่างประเทศถูกลง แต่หากอ่อนค่าก็จะมีผลให้ต้นทุนสูงขึ้น ส่วนการปรับโครงสร้างค่าไฟฟ้าใหม่นั้นอยู่ระหว่างการดำเนินงาน
คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงสิ้นปีนี้
“กกพ.จะเผยแพร่รายละเอียดทั้งหมดผ่านทาง www.erc.or.th เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ตั้งแต่วันที่ 7 – 21 มีนาคม 2562 ก่อนที่จะนำผลการรับฟังความคิดเห็นมาพิจารณาและให้การไฟฟ้าประกาศเรียกเก็บค่าไฟฟ้าตามสูตรการปรับค่า Ft สำหรับเรียกเก็บในรอบดังกล่าวต่อไป” นางสาวนฤภัทรกล่าว
ส่วนความคืบหน้าการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ติดตั้งบนหลังคาที่อยู่อาศัย(โซลาร์ภาคประชาชน) ซึ่งเป็นนโยบายที่ถูกบรรจุไว้ในแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย หรือ PDP-2018 ซึ่งเป็นแผนฉบับใหม่ที่กำหนดรับซื้อไฟจากโซลาร์ภาคประชาชน 10,000 เมกกะวัตต์ และจะทยอยรับซื้อปีละ 100 เมกะวัตต์ ช่วง 10 ปีแรก เพื่อเป็นการศึกษาหลังจากนั้นจะมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นและออกประกาศรับซื้อได้ โดยภายในเดือนมีนาคมนี้ จะชี้แจงรายละเอียดและเงื่อนไขการรับซื้อไฟฟ้าทั้งหมด
ขณะที่โครงการผลิตไฟฟ้าจากขยะชุมชน ในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อรับซื้อไฟฟ้าประมาณ 78 เมกะวัตต์ (MW) หรือ Quick Win Projects ซึ่งมีบัญชีความพร้อมของโครงการ จากกระทรวงมหาดไทย 12 โครงการ 8 พื้นที่นั้น กกพ.ได้ขยายเวลารับข้อเสนอจาก 1 ธันวาคม 2560-30 กันยายน 2561 เป็น 1 ธันวาคม 2560-31 มีนาคม 2562 ได้ประกาศรายชื่อผู้ผ่านคัดเลือกแล้ว 3 รายเร็วๆนี้ จะมีเพิ่มอีก 1 ราย โดยยืนยันว่าจะไม่ขยายอีกหากไม่มายื่นก็จะตัดสิทธิ์ทันที
นอกจากนี้ยังเตรียมเปิดรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายเล็ก (SPP) ที่ใช้เชื้อเพลิงจากขยะชุมชน 1-2 เดือนข้างหน้านี้เบื้องต้นมีราคารับซื้ออยู่ที่ 3.66 บาท/หน่วย เป็นเวลา 20-25 ปี เพื่อให้ครบเป้าหมายการผลิตไฟฟ้าขยะชุมชนที่กำหนดไว้ในแผนดีดีพีเดิม 500 เมกะวัตต์ ส่วนตามแผน PDP ใหม่ที่เป้าหมายจะผลิตไฟฟ้าจากขยะชุมชนอีก 400 เมกะวัตต์ นั้น คาดว่าจะเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก(VSPP) รายละเอียดพื้นที่ต้องรอหลักเกณฑ์กระทรวงมหาดไทย
การเปิดแข่งขันรับซื้อไฟฟ้าจากเอกชนรายใหญ่(IPP) ภายใต้พีดีพีใหม่ 8,300 เมกะวัตต์นั้นต้องรอนโยบายจากกระทรวงพลังงานให้ชัดเจนก่อนแต่ระยะเร่งด่วนที่ได้รับมอบหมาย คือ การเปิดประมูลในพื้นที่ภาคตะวันตกเพื่อรองรับการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบในปี 2567-68 จำนวน 700 เมกะวัตต์ 2 โรง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี