ล็อบบี้ฝุ่นตลบชิงตำแหน่ง‘ซุปเปอร์บอร์ด กสทช.’ สนช.เตรียมเคาะรอบตัดเชือก
12 มี.ค.62 รายงานข่าวจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แจ้งว่า ภายในวันที่ 13-14 มี.ค.62 จะมีการลงคะแนนคัดเลือกผู้สมควรได้รับการเสนอชื่อ “ซุปเปอร์บอร์ด กสทช.” หรือกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงาน กสทช. ในรอบสุดท้าย เพื่อจะคัดเลือกรอบสุดท้ายจากด้านละ 2 คน ให้เหลือด้านละ 1 คน รวมเป็น 5 ด้าน 5 คน ประกอบด้วย
1.ด้านกิจการกระจายเสียง นายณภัทร วินิจฉัยกุล อดีตรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) , ผศ.วิชัย โถสุวรรณจินดา อาจารย์มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต
2.ด้านกิจการโทรทัศน์ นายสมยศ เลี้ยงบำรุง ผู้ปฏิบัติงานประจำ ประธาน กสทช. , นายบัณฑิต ตั้งประเสริฐ อดีตผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี
3.ด้านกิจการโทรคมนาคม นายปรเมศวร์ กุมารบุญ กรรมการวิศวกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ , พ.อ.พีรวัส พรหมกลัดพะเนาว์ กรรมการ บริษัท วิทยุการบิน จำกัด
4.ด้านคุ้มครองผู้บริโภค นายพันธ์ศักดิ์ จันทร์ปัญญา กรรมการฝ่ายกิจกรรมสิทธิผู้บริโภค สมาคมสิทธิผู้บริโภค , ผศ.สุทิศา รัตนวิชา อาจารย์ประจำ คณะบริหารธุรกิจมหาวิทยาลัยเกริก
5.ด้านส่งเสริมสิทธิและเสรีภาพของประชาชน นายไพโรจน์ โพธิไสย อดีตรองเลขาธิการวุฒิสภา ,พลโท พร ภิเศก
ทั้งนี้ ซุปเปอร์บอร์ด กสทช. จะมีบทบาทอย่างสูงในการกำกับ ตรวจสอบ และประเมินผลงานของ กสทช. เรียกได้ว่าเป็นยอดปิรามิดวงการสื่อสารไทยน่าจับตามองอย่างยิ่ง โดยการคัดเลือกรอบสุดท้ายเป็นเรื่องที่ให้สงสัยในวงการโทรคมนาคม ว่าผู้ที่ตกคุณสมบัติ กสทช.ผ่านเข้ารอบ ซุปเปอร์บอร์ดกสทช. (กตป.)ได้อย่างไร เนื่องจากลักษณะต้องห้ามตาม พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ มาตรา 7 ต้องไม่เป็นหรือเคยเป็นกรรมการ ผู้จัดการ ผู้บริหาร ที่ปรึกษา พนักงาน ผู้ถือหุ้นหรือหุ้นส่วนในบริษัท ที่ประกอบธุรกิจ ด้านกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์หรือกิจการโทรคมนาคม ในระยะเวลาหนึ่งปีก่อนได้รับคัดเลือก โดยขณะนี้มีผู้เข้ารับการคัดเลือกได้วิ่งเต้นเพื่อจะได้รับการคัดเลือกในรอบสุดท้ายกันอย่างฝุ่นตลบ
อย่างไรก็ตามมี กรรมการวิทยุการบินที่เข้ารอบชิง กตป. นั้นได้ดำเนินเรื่องเพื่อล็อบบี้ผู้ใหญ่ใน สนช.เพื่อเลี่ยงบาลีให้เข้าใจว่า วิทยุการบิน “ไม่ได้ประกอบธุรกิจ” จึงมีผ่านคุณสมบัติ แต่กรรมการสรรหา กสทช.ในปี 2561มองว่าห้ามไม่ให้ผู้รับใบอนุญาตจาก กสทช.ขึ้นมาเป็นกรรมการใน กสทช. เช่นเดียวกับนักฟุตบอลจะมาขอเป็นกรรมการ แล้วถ้าวิทยุการบินไม่ได้ประกอบกิจการจะมาขอใบอนุญาตจาก กสทช.เพื่ออะไรเพราะในใบอนุญาตเขียนไว้อย่างชัดเจน
สำหรับตัวเต็งที่คาดว่ามีโอกาสเป็น ประธาน ซุปเปอร์บอร์ด กสทช. อาจจะเป็นนายปรเมศวร์ กุมารบุญ เนื่องจากเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ในการกำกับดูแลกิจการสื่อสาร และปฏิบัติงานในกสทช.มาตั้งแต่ก่อตั้ง คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทช.) เป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับในวงการโทรคมนาคมไทยมานานในฐานะนักเขียนและอาจารย์ที่เรียกได้ว่าเป็นนักกฎหมายโทรคมนาคม และวุฒิวิศวกรไฟฟ้าสื่อสาร ที่มีคนเดียวในประเทศ เพราะผู้ที่สภาวิศวกรยอมรับผลงานให้เป็น วุฒิวิศวกรไฟฟ้าสื่อสาร ซึ่งมีเพียง 91 คนในรอบ 58 ปีที่ผ่านมา ซึ่งนายปรเมศวร์ กุมารบุญ เป็นคนที่ 88 ของไทย
นอกจากนี้ประสบการณ์ทำงานก็นับว่าเป็นผู้ที่ผ่านงานรอบด้านในวงการสื่อสารทั้งในระดับชาติและนานาชาติ อาทิเช่น เป็นกรรมการวิศวกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นคณะทำงานกำหนดหลักเกณฑ์และคุณสมบัติผู้ขอใบรับรองความรู้ความชำนาญฯ สาขาวิศวกรรมสารสนเทศ แห่งสภาวิศวกร เป็นคณะทำงานยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงแห่งชาติ สำนักงาน กสทช. เป็นคณะทำงานยุทธศาสตร์การวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ
เป็นประธานกรรมการตรวจและรับมอบงาน โครงการศึกษาเทคโนโลยีโทรคมนาคมเพื่อความมั่นคง สำนักงาน กสทช.ร่วมกับนักวิชาการจากหน่วยงานความมั่นคงต่างๆ เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ คณะกรรมการกำกับการดำเนินการออกใบอนุญาตประกอบกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคที่สาม (3G) สำหรับประเทศไทย ชุดเริ่มต้นในปี 2548 เป็นคณะทำงาน และผู้ช่วยเลขานุการ คณะทำงานร่างแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่แห่งชาติ ฯลฯ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี