กลุ่มปฏิรูปพลังงานเพื่อความยั่งยืน(ERS) จัด “ดีเบต...ส่องนโยบายพลังงาน#เลือกตั้ง” ที่สมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยเริ่มที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ตัวแทนพรรคภูมิใจไทย ว่า พรรคมีนโยบายสนับสนุนพืชพลังงาน 4 ชนิด เพื่อเป็นเชื้อเพลิงสำหรับยานยนต์และในการผลิตไฟฟ้า ได้แก่ ข้าว ปาล์ม มันสำปะหลัง และอ้อย ทั้งไบโอดีเซลและเอทานอล เป็นแนวทางการแก้ปัญหาความยากจน ทำให้เกษตรกรมีรายได้ ตั้งเป้าใช้พืชพลังงานทดแทนเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าในสัดส่วน 100% ภายใน 4 ปี โดยให้บริษัท ปตท. เป็นหน่วยงานหลักในการนำพืชพลังงานจำหน่ายในสถานีบริการน้ำมัน
นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ตัวแทน พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า สิ่งที่ต้องทำเรื่องแรกในภาคพลังงานคือเลิกทะเลาะกัน ควรร่วมกันกำหนดนโยบายพลังงาน เพื่อสร้างความยั่งยืนด้านพลังงาน พรรคมีนโยบายดูแลราคาเชื้อเพลิงให้ถูกลง ตรึงราคาน้ำมันดีเซลไว้ไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร และปรับโครงสร้างกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงใหม่เพื่อสอดรับนโยบาย
ขณะที่ ปตท.และบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม หรือ ปตท.สผ. ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน โดยวางบทบาทให้ ปตท. เป็นบรรษัทพลังงานแห่งชาติ รวมถึงอยากเห็น ปตท.ปรับบทบาทสู่พลังงานทางเลือกมากขึ้น เช่น ปาล์ม ที่พรรคมีนโยบายประกันราคาที่กิโลกรัมละ 4 บาท เพื่อนำมาผลิตไบโอดีเซลจากบี 7 เป็นบี 10
นายสันติ กีระนันทน์ ตัวแทนพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ประเทศไทยควรปล่อยให้ราคาพลังงานเป็นไปตามกลไกตลาด แต่ต้องบริหารให้สมดุล ทำให้ผู้บริโภค ภาคอุตสาหกรรมเข้าถึงได้ รวมทั้งผลักดันให้เกิดการใช้พืชพลังงานให้เป็นพืชเศรษฐกิจ ดึงเอกชนเข้ามาผลิตไบโอดีเซลมากขึ้น จัดทำมาตรฐานบังคับ เช่น ผลักดันการผลิตรถยนต์มาตรฐานยูโร 4 สู่ยูโร 5 มีโรดแมปผลิตรถยนต์มุ่งสู่รถยนต์อีวีให้มากขึ้น แม้มองว่าอีวีจะยังไม่เกิดขึ้นภายใน 5 ปีนี้
“นโยบายแรกที่จะทำหากได้เป็นรัฐบาล จะทบทวนการแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศ 2018 (พีดีพีใหม่) โดยเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทนจาก 20% เป็น 50% ผลักดันการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินสะอาดและมีราคาถูก แต่ต้องทำความเข้าใจกับภาคสังคมเพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้ง แต่ยืนยันไม่ดึงปตท.ออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ เพราะจะกระทบต่อความน่าเชื่อถือของประเทศ แต่ ปตท.ควรจะทบทวนคณะกรรมการบริหารที่มีตัวแทนจากภาครัฐเข้ามาดำรงตำแหน่งมากเกินไป จนเกิดความไม่โปร่งใส”นายสันติ กล่าว
นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล ตัวแทนพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า พรรคมีนโยบายส่งเสริมใช้พลังงานให้มีประสิทธิภาพ โดยรณรงค์ให้คนใช้รถโดยสารและขนส่งสาธารณะ มีแผนลงทุนระบบราง รถไฟฟ้า ทบทวนการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเพิ่มเติมให้ครอบคลุมการสร้างอาคาร บ้านเรือนประหยัดพลังงาน ส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน จัดตั้งกองทุนเพื่อดูแลผลกระทบสิ่งแวดล้อม เปิดเสรีธุรกิจท่อส่งก๊าซธรรมชาติลดการผูกขาดจาก ปตท.
นายระวี มาศฉมาดล ตัวแทนพรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวว่า พรรคมีนโยบายลดราคาน้ำมันลง 5 บาทต่อลิตร ลดราคาก๊าซหุงต้ม(แอลพีจี) ขนาดถัง 15 กก. เหลือ 250 บาทต่อถัง โดยไม่ใช้ภาษีประชาชน ยุติการผูกขาดธุรกิจทุกประเภทที่รัฐถือหุ้นเกิน 30% โดยเข้าไปตรวจสอบสัญญาทุกฉบับ เช่น การประมูลปิโตรเลียม หากไม่โปร่งใสจะนำมาทบทวนใหม่ทั้งหมด จัดตั้งบรรษัทพลังงานแห่งชาติ หรือ NOC
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี