เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2562 นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เดินทางตรวจเยี่ยมกิจการ การท่าเรือแห่งประเทศไทย(กทท.) พร้อมรับฟังความคืบหน้าการดำเนินโครงการพัฒนาที่สำคัญนายสมคิดกล่าวว่า การท่าเรือฯมีหลายโครงการที่อยู่ระหว่างการขับเคลื่อนโดยโครงการแรกอย่างโครงการก่อสร้างท่าเรือแหลมฉบังขั้นที่ 3 วงเงิน 84,000 ล้านบาท คาดว่าภายในเดือนเมษายนนี้ จะสามารถทราบเอกชนผู้ชนะ และได้รับสัมปทานโครงการดังกล่าวจากนั้นก็จะเริ่มต้นโครงการได้เร็วๆ นี้
ทั้งนี้นายสมคิดยังชี้แนะว่า ในการคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมลงทุนโครงการดังกล่าว หากเอกชนมีการยื่นข้อเสนอนอกเงื่อนไขมาให้พิจารณานั้นก็คงไม่สามารถรับไว้ได้เพราะอาจทำให้ขั้นตอนการพิจารณาคัดเลือกตัวและลงนามสัญญาต้องล่าช้าออกไปอย่างเช่น งานประมูลรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อมสนามบิน(ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) อยากให้ การท่าเรือฯเก็บประสบการณ์มาเป็นบทเรียนในการประมูลโครงการพัฒนาท่าเรืออื่นต่อไป
ทั้งนี้ในส่วนของการพัฒนาท่าเรือกรุงเทพฯ(คลองเตย)นั้น เนื่องจากมีมูลค่าที่ดินที่สูง และเป็นท่าเรือที่มีน้ำลึกสามารถจอดเรือสินค้าขนาดใหญ่ได้ รวมถึงมีศักยภาพในเชิงการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทางการท่าเรือฯจึงมีแผนที่จะพัฒนาโครงการให้ท่าเรือกรุงเทพฯใหญ่ขึ้นและทันสมัย มีแผนที่จะเป็นท่าเรือที่นำนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยให้มากขึ้น
ขณะที่โครงการท่าเรือระนองจะเป็นการพัฒนาจากท่าเรือเดิมที่มีอยู่แล้ว ให้สามารถเชื่อมต่อกับโครงการรถไฟทางคู่ชุมพร-ระนอง หากสามารถเชื่อมโยงโครงข่ายในระบบนี้ได้จะทำให้สินค้าที่ผลิตในประเทศไทย จะสามารถเข้าถึงไปยังฝั่งอันดามัน เอเชียใต้ อินเดียและบังกลาเทศในระยะแรก ส่วนการพัฒนาในระยะที่ 2 จะเป็นการเพิ่มศักยภาพให้มีขีดความสามารถในการเป็นศูนย์กลางขนถ่ายสินค้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านและเกิดการขนส่งไปยังมหาสมุทรระดับโลก
สำหรับแผนลงทุนโครงการขนาดใหญ่ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(EEC) นั้น เช่น โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน, โครงการเมืองการบินอู่ตะเภา, โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังขั้นที่ 3 และอุปกรณ์เกี่ยวเนื่อง และโครงการพัฒนาท่าเรือมาบตาพุด เป็นต้น ก็มั่นใจว่าจะสามารถเดินไปตามขั้นตอนประมูลและคัดเลือกเอกชนร่วมทุนได้ตามเป้าหมาย รวมถึงสามารถได้ตัวเอกชนพร้อมลงนามสัญญาภายในรัฐบาลชุดนี้
ด้านนายกมลศักดิ์ พรหมประยูร ผู้อำนวยการ กทท.กล่าวว่า โครงการแหลมฉบัง ขั้นที่ 3 มีกำหนดให้เอกชนยื่นซองในวันที่ 29 มีนาคม และในวันที่ 11 เมษายนจะสามารถสรุปผลผู้ชนะได้ก่อนส่งรายงานต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ต่อไปทั้งนี้คาดว่าจะมีเอกชนรายใหญ่จับกลุ่มกันมาแข่งขันยื่นข้อเสนอเพียง 2 ราย
ส่วนการพัฒนาท่าเรือกรุงเทพฯนั้นทางการท่าเรือฯจะมีการแบ่งโซนในการพัฒนา โดยในการพัฒนาที่ดินท่าเรือกรุงเทพฯให้เป็นเมืองอัจฉริยะ หรือ Smart City
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี