นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทปตท. เปิดเผยภายหลังงานวางศิลาฤกษ์โครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือและสถานีรับ-จ่ายก๊าซธรรมชาติเหลว หนองแฟบ หรือ Nong Fab LNG Receiving Terminal ซึ่งดำเนินการโดยบริษัท พีทีที แอลเอ็นจี (PTTLNG) ว่าเพื่อรองรับการนำเข้าแอลเอ็นจีในปริมาณ 7.5 ล้านตันต่อปี ซึ่งจะแล้วเสร็จ พร้อมจัดเก็บและแปรสภาพก๊าซธรรมชาติจากของเหลวเป็นก๊าซ เพื่อจัดส่งเข้าโครงข่ายระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติได้ในปี 2565
ทั้งนี้ เป็นการดำเนินการตามมติของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2559 ที่เห็นชอบให้ ด้วยงบลงทุน 38,500 ล้านบาท เพื่อขยายขีดความสามารถในการนำเข้าแอลเอ็นจี จากเดิมที่ 11.5 ล้านตันต่อปี เพิ่มเป็น 19 ล้านตันต่อปี รองรับสถานการณ์ในปัจจุบันที่ปริมาณพลังงานสำรองจากก๊าซธรรมชาติใน อ่าวไทยลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากประเทศเพื่อนบ้านมีข้อจำกัด ซึ่งสวนทางกับความต้องการใช้พลังงานที่สูงขึ้น ทั้งในภาคไฟฟ้า ภาคอุตสาหกรรม และภาคขนส่ง
นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต ประธานกรรมการ บริษัท พีทีที แอลเอ็นจี กล่าวว่า โครงการท่าเทียบเรือและสถานีรับ-จ่ายก๊าซธรรมชาติเหลว ณ บ้านหนองแฟบ ตำบลมาบตาพุด จ.ระยอง มีพื้นที่ 182 ไร่ เป็นอีกหนึ่งโครงการข้อตกลงคุณธรรม ที่มีกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างโปร่งใส และมีผู้ร่วมสังเกตการณ์ในทุกขั้นตอน โดยนับเป็นโครงการที่สำคัญในการรองรับแอลเอ็นจี ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานสำรองของประเทศ โดย ปตท. ได้นำเข้าแอลเอ็นจีมาตั้งแต่ปี 2554 ผ่านการซื้อขายลักษณะสัญญาในรูปแบบตลาดจร (Spot) และได้นำเข้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันได้ทำสัญญาซื้อขายแอลเอ็นจีระยะยาวทั้งหมด 4 สัญญา รวมปริมาณ 5.2 ล้านตันต่อปี เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานระยะยาว และเพื่อให้ประเทศมีพลังงานใช้อย่างพอเพียงต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี