nn ได้เห็นกันแล้วว่าช่วงโค้งสุดท้ายในการหาเสียงเลือกตั้งเมื่อสัปดาห์ก่อน...ดุเด็ดเผ็ดร้อนกันทุกพรรค...ซึ่งอีกไม่กี่ชั่วโมงจากนี้...ก็จะได้รู้ผลกันแล้ว....และแน่นอนว่า...ทุกสายตาจับจ้องไปที่...พรรคพลังประชารัฐ...ว่าจะได้เป็นรัฐบาล และ หนุน “ลุงตู่”ให้เป็นนายกรัฐมนตรีต่ออีกสมัยหนึ่งได้หรือเปล่า...
ทั้งนี้นอกจากเรื่องของหน้าตารัฐบาลใหม่จะออกมาเป็นอย่างไรแล้ว...เศรษฐศาสตร์วันหยุด...อยากจะให้สังคมติดตามทวงถาม...แต่ละพรรคการเมืองว่าสิ่งที่ได้เคยรับปากกับประชาชนเอาไว้ว่าหากได้เป็นรัฐบาลจะทำอย่างโน้นอย่างนี้ให้นั้น...พอถึงเวลาแล้วจะเบี้ยวหรือเปล่า...
อย่างเช่น...พรรคพลังประชารัฐ...เมื่อสัปดาห์สุดท้ายก่อนเลือกตั้ง ส่งโฆษกพรรค กอบศักดิ์ ภูตระกูล รับฟังปัญหาชาวไร่ยาสูบ หวังคะแนนเสียงหลายแสน ขนาดรับปากหลังเลือกตั้งเมื่อพรรคฯ เข้ามาเป็นรัฐบาลแล้วจะทบทวนเรื่องการขึ้นภาษีบุหรี่เป็น 40 % และขยับจุดตัดราคาอัตราภาษีจาก 60 บาทขึ้นไป พร้อมหาทางเยียวยาชาวไร่ยาสูบด้วย ขณะที่พรรคใหญ่อื่นๆ ก็ไม่น้อยหน้า รับปากจะดูแลชาวไร่ยาสูบหลังเลือกตั้งเช่นกัน ทั้งเพื่อไทย ประชาธิปัตย์ และภูมิใจไทย…
ก่อนหน้านี้(ก่อนเลือกตั้ง1สัปดาห์) ดูเหมือนพรรคการเมืองต่างๆ จะเข้าใจปัญหาของอุตสาหกรรมยาสูบดีขึ้นแล้ว ว่ากำลังเดือดร้อนหนักเพราะการขึ้นภาษีสรรพสามิตบุหรี่ติดต่อกันทุกๆ ปี จนการยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) ต้องลดการรับซื้อใบยาลง 50% เมื่อปีที่ผ่านมา และหากภาษีสรรพสามิตบุหรี่ขึ้นอีกครั้งเป็น 40% ในเดือนตุลาคมนี้ก็อาจจะไม่รับซื้อใบยาสูบเลยไปอีก 2-3 ปี
ขณะที่ผลกำไรของ ยสท. ทรุดเหลือเพียง 900 ล้านบาทหลังขึ้นภาษีรอบล่าสุด จากเมื่อก่อนเคยได้ถึง 9 พันล้านบาท นอกจากนี้ยังทำให้รายได้ภาษีบำรุง อบจ. ที่เก็บจากบุหรี่ลดฮวบไปร้อยละ 22 ในปีงบประมาณ 2561 เหลือเพียง 2.5 พันล้านบาท
ฝั่งร้านค้าปลีก ก็มีผลสำรวจนิด้าโพล พบว่า ร้อยละ 81ไม่เห็นด้วยกับการขึ้นภาษีบุหรี่อีกรอบ วันที่ 1 ต.ค.นี้ ขณะที่ร้อยละ 91 เชื่อว่าจะได้รับผลกระทบจากการขึ้นภาษีดังกล่าวแน่นอน และร้อยละ 81 เชื่อว่าการขึ้นภาษีนี้จะทำให้บุหรี่เพื่อนบ้านระบาดหนักขึ้นอีก
ขณะที่ ฟากฝั่ง กรมสรรพสามิตและกระทรวงการคลังยังคงนิ่งเฉย ทั้งที่รายได้ภาษีสรรพสามิตบุหรี่เดือนล่าสุด (ก.พ.63) เก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 14.7% และต่ำกว่าปีที่แล้วถึง 21.3% จากการที่อัตราภาษีบุหรี่สูงเกิน ทำให้ผู้สูบบุหรี่หันไปบริโภคบุหรี่เถื่อนและยาเส้น
!! แต่เรากำลังจะกลับสู่ยุครัฐบาลประชาธิปไตยจากการเลือกตั้งอีกครั้ง นโยบายการเงินการคลังต้องยึดโยงประชาชนเป็นที่ตั้ง อะไรที่เกินพอดีทำคนจำนวนมากเดือดร้อนโดยที่ไม่ได้เกิดผลดี ก็สมควรทบทวนยกเลิกหรือปรับเปลี่ยน ตอนนี้อุตสาหกรรมยาสูบโดยเฉพาะชาวไร่ยาสูบ 250,000 ชีวิต คงต้องฝากความหวังไว้ที่ผู้แทนปวงชนจากพรรคการเมืองต่างๆ ที่จะเข้ามาจัดการปัญหาของพวกเขาโดยเร็วต่อไป....หรือไม่ในที่สุด“พวกเขาจะถูกเบี้ยว”เหมือนเดิมอีกครั้ง....?????
พงษ์พันธุ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี