นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม(กสอ.) เปิดเผยว่า ช่วงครึ่งหลังของปีงบประมาณ 2562 (เมษายน-กันยายน)กสอ.จะเร่งพัฒนาและส่งเสริมผู้ประกอบการ 3 กลุ่ม คือ อุตสาหกรรมฟู้ดทรัค อุตสาหกรรมการแปรรูปกัญชา และอุตสาหกรรมที่เกิดจากการบูรณาการความร่วมมือกับรัฐบาลท้องถิ่นจังหวัดวากายามะ ประเทศญี่ปุ่น เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่าง 2 ประเทศ ในการสนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี)
สำหรับอุตสาหกรรมการแปรรูปกัญชาหลังจากมีการปลดล็อกกัญชาให้สามารถนำมาสกัดใช้รักษาโรคได้นั้นกระทรวงอุตสาหกรรมได้ตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนแผนพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพกลุ่มกัญชาและสมุนไพร โดยมีนายจุลพงษ์ ทวีศรี ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานคณะทำงาน เพื่อศึกษาขอบเขตการแปรรูปสารสกัดจากพืชกัญชาไปสู่อุตสาหกรรมต่างๆ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการแพทย์
ทั้งนี้ พบว่าเมล็ดกัญชา เมื่อนำมาสกัดจะให้สาร CBD (Cannabidiol เป็นสารสกัดจากกัญชา กัญชง ซึ่งไม่มีฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาท) จึงเป็นสารที่นำมาใช้ทางการรักษาโรคได้ โดยจะขอข้อมูลเพิ่มเติมจากกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งการปลูกกัญชา กสอ.จะจำแนกเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชน และสหกรณ์ ให้สามารถขออนุญาตปลูกกัญชาได้ตามกฎหมาย ดำเนินการภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานรัฐและเอกชนที่มีหน้าที่ศึกษาวิจัย หรือจัดการเรียนการสอนทางการแพทย์ หรือเภสัชศาสตร์เท่านั้น โดยจะเชิญหน่วยงานเครือข่ายร่วม ที่มีบทบาทสำคัญและเกี่ยวข้องมาร่วมด้วย อาทิ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยรังสิต โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 1-2 เดือนหลังจากนี้
ส่วนอุตสาหกรรมรถฟู้ดทรัค (รถขายอาหารเคลื่อนที่) จะส่งเสริมและพัฒนาผ่าน 5 มาตรการ คือ สนับสนุนให้เกิดฟู้ดทรัคที่มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในสังคม โดยวันที่ 8 พฤษภาคม 2562 กสอ.จะร่วมกับ 7 หน่วยงาน ได้แก่ กรมอนามัย กรมการขนส่งทางบก สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ สถาบันอาหาร สถาบันยานยนต์ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร จัดพิธีลงนามความร่วมมือ เพี่อส่งเสริมและกำกับดูแลผู้ประกอบการและบุคลากรในอุตสาหกรรมฟู้ดทรัค รวมถึงจะบ่มเพาะผู้ประกอบการฟู้ดทรัคผ่านมาตรการด้านการเงิน ซึ่ง กสอ.ได้ลดอัตราดอกเบี้ยของกองทุนหมุนเวียนเหลือ 4% และเพิ่มเพดานวงเงินกู้สูงสุดถึง 1 ล้านบาท ขณะนี้มีผู้ประกอบการสนใจขอสินเชื่อจำนวนมาก ทั้งนี้ คาดว่าจะส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการกลุ่มอุตสาหกรรมฟู้ดทรัคให้เติบโตได้มากกว่า 3,500 ราย และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 3,200 ล้านบาทในปีนี้
นอกจากนี้ กสอ.ยังเตรียมลงนามบันทึกความเข้าใจกับรัฐบาลท้องถิ่น จ.วากายามะ ประเทศญี่ปุ่น วันที่ 20 พฤษภาคมนี้ โดยมีวัตถุประสงค์สนับสนุนเอสเอ็มอีในจ.วากายามะประเทศญี่ปุ่นและประเทศไทยขยายธุรกิจในระดับสากล รวมถึงการแลกเปลี่ยนแนวคิด โดยการจัดกิจกรรมเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างกัน นอกจากนี้ วันที่ 22 พฤษภาคม จะเข้าเยี่ยมคารวะผู้ว่าราชการจังหวัดเกียวโต และเดินทางไปศึกษาดูงาน ณ เกียวโตอีโคโนมิก เซ็นเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น ศูนย์ที่ส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอและแฟชั่นดีไซน์ของญี่ปุ่น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี