นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ท่าอากาศยานไทยหรือทอท. เปิดเผยความคืบหน้าโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 หรือเทอร์มินอล 2 (TER 2) วงเงิน 42,000 ล้านบาท ว่า ทางสภาที่ปรึกษาสนามบิน (Airport Consultants Council: ACC) ได้ตัดสินใจกำหนดแบบให้เชื่อมกับอาคารผู้โดยสารในปัจจุบัน (TER 1) ที่จะมีระบบสายพานสัมภาระและระบบขนรถไฟฟ้าส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ(APM) เชื่อมระหว่างทั้งสองอาคารโดยแตกต่างจากเดิมที่กำหนดให้ TER 2 เป็นการออกแบบลักษณะอาคารเดี่ยว เมื่อมีความชัดเจนแบบนี้แล้ว โดยขณะนี้ ทอท.ได้รายงานกระทรวงคมนาคม เพื่อขอเดินหน้าโครงการต่อ
พร้อมกันนี้เตรียมเสนอโครงการไปยัง สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือสภาพัฒน์ โดยจะมีการชี้แจงความจำเป็นที่ต้องเร่งดำเนินโครงการดังกล่าวเพื่อเพิ่มคุณภาพบริการในสนามบินควบคู่ไปกับการรองรับตลาดท่องเที่ยวไทย
ทั้งนี้หากทางสภาพัฒน์ยังคงยืนยันคัดค้านการก่อสร้าง หรือมีการสั่งชะลอโครงการต่อไป ทอท.อาจส่งผลทำให้ผู้โดยสารล้นสนามบิน เนื่องจากปัจจุบันเกินขีดความสามารถในการรองรับไปแล้ว 15 ล้านคนต่อปี แต่ยืนยันว่าสนามบินสุวรรณภูมิ ยังสามารถรองรับได้แม้จะมีขีดจำกัดรองรับประมาณปีละ 45 ล้านคน ในบริเวณพื้นที่ฝั่ง Landside ขณะที่ฝั่ง Airside ของอาคารผู้โดยสารปัจจุบันสามารถรองรับได้ถึง 90 ล้านคน ซึ่งยังสามารถพัฒนาขยายได้อีกมากเมื่อพิจารณาจากปริมาณผู้โดยสาร 60 ล้านคนต่อปี รวมถึงยังมีโครงการอาคารที่ทยอยจะแล้วเสร็จได้แก่ อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (Satellite 1) และการขยายอาคารฝั่งทิศตะวันตก (West-wing) ที่เตรียมเปิดใช้ปี 2563-2564 รองรับมากกว่า 15 ล้านคนต่อปี
อย่างไรก็ตาม หากสภาพัฒน์มีมติเห็นชอบอนุมัติโครงการแล้ว ทอท.จะดำเนินการตั้งงบประมาณปี 2563 เพื่อจัดจ้างเอกชนออกแบบโครงการต่อไป และ ทอท.เตรียมแผนร่างแบบอาคารดังกล่าวบางส่วน เช่น ทอท.ออกแบบงานฐานรากและจ้างออกแบบเฉพาะอาคาร รวมถึงงานบนดินเนื่องจากเดิมกำหนดเปิดใช้อาคารดังกล่าวเพื่อแก้ปัญหาความแออัดในช่วงปี 2565-2566 พร้อมกับโครงการพัฒนาสุวรรณภูมิระยะที่ 2 ซึ่งคงจะต้องรอคำตอบจากสภาพัฒน์ก่อนกำหนดทิศทางการพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัญหาในการก่อสร้างเทอร์มินอล 2 สนามบินสุวรรณภูมินั้น ก่อนหน้านี้คณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท. วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2562 เคย มีมติยกเลิกแบบของกลุ่มนิติบุคคลร่วมทำงานดีบีเอแอลพี-นิเคนเซกเก (กลุ่มดวงฤทธิ์)โดยอ้างว่าจำเป็นต้องปรับแบบก่อสร้างใหม่ให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้งาน และรองรับผู้โดยสารได้ 40 ล้านคน/ปี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี