14 พ.ค.62 นายโสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (AREA) เปิดเผยถึงการนำตัวเลขรายได้ต่อครอบครัวต่อปีของชาวกรุงเทพมหานคร (กทม.) มาเทียบกับราคาบ้านที่เปิดขายในแต่ละปีในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งพบว่า เมื่อนำราคาบ้านที่เสนอขาย มาหารด้วยรายได้ต่อปี ปรากฏอัตราส่วนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการจ่ายเพื่อการซื้อบ้านของประชาชนโดยรวมลดลงอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ในปี 2550 รายได้ของครัวเรือนในกรุงเทพฯ มีรายได้เดือนละ 39,020 บาท ซึ่งเป็นผลจากการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ในปีนั้น ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย ประมาณการว่า ราคาโดยเฉลี่ยของที่อยู่อาศัยทุกประเภทเป็นเงิน 2.289 ล้านบาท หรือเท่ากับว่าราคาที่อยู่อาศัยเป็น 4.9 เท่าของรายได้ต่อปีของครัวเรือนในเขตกรุงเทพมหานคร แต่มาในปี 2561 สัดส่วนข้างต้นได้เพิ่มเป็น 8.9 เท่า แสดงว่าครัวเรือนในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีความสามารถในการซื้อบ้านลดน้อยลง
“ในรอบ 11 ปีที่ผ่านมา ปี 2550-2561 สัดส่วนราคาบ้านต่อรายได้ของครอบครัว เพิ่มขึ้น 69% หรือเพิ่มขึ้นปีละ 4.9% ในขณะที่รายได้ต่อครัวเรือนของชาวกรุงเทพมหานคร ไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นนั้น โดยเฉพาะในช่วงปี 2556 มาจนถึงปี 2558 รายได้ต่อครัวเรือนของชาวกรุงเทพมหานครลดจาก 49,191 บาทต่อเดือน มาเหลือเพียง 45,572 บาทต่อเดือน ส่วนในปี 2560 ก็แทบไม่แตกต่างจากปี 2558 ดังนั้นความสามารถในการจ่ายของประชาชนจึงลดลง” นายโสภณ กล่าว
นายโสภณ กล่าวต่อไปว่า ปัญหาของความสามารถในการซื้อที่อยู่อาศัยของประชาชนจะวิกฤติมากยิ่งขึ้นเพราะต่างชาติโดยเฉพาะจีนมาแย่งซื้อที่อยู่อาศัยมากขึ้น ประเทศไทยไม่ได้กำหนดราคาขั้นต่ำที่จะซื้อได้ ไม่ได้กำหนดอัตราภาษีสูงๆ (แต่แทบไม่เก็บภาษีเลย) จึงทำให้ตลาดที่อยู่อาศัยราวร้อยละ 20 มีต่างชาติมาหาซื้อ ทำให้ราคาบ้านเพิ่มสูงขึ้น ต่อไปคนไทยจะสามารถซื้อบ้านได้น้อยลง สู้ต่างชาติไม่ได้ ตลาดที่อยู่อาศัยอาจถูกต่างชาติโดยเฉพาะจีนครอบงำ ดังนั้นตนจึงเรียกร้องให้ดำเนินแนวทางการแก้ไข คือ
1.กำหนดราคาขั้นต่ำของที่อยู่อาศัยที่จะให้ต่างชาติซื้อ เช่น ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งในมาเลเซียกำหนดไว้ขั้นต่ำประมาณ 8-16 ล้านบาท 2.กำหนดอัตราภาษีสูง เช่น สิงคโปร์กำหนดให้ต่างชาติที่มาซื้ออสังหาริมทรัพย์ต้องเสียภาษีร้อยละ 20 ส่วนฮ่องกงกำหนดไว้ที่ร้อยละ 30 3.กำหนดห้ามต่างชาติซื้อบ้านมือสอง ดังเช่นในออสเตรเลียก็มีข้อกำหนดนี้ 4.กำหนดให้ต่างชาติที่มาซื้อที่อยู่อาศัยในไทย ไม่สามารถขายต่อในเวลา 3 ปี และ 5.กำหนดให้ชาวต่างชาติที่มาซื้อที่อยู่อาศัยไม่สามารถอยู่ในไทยได้เกิน 4 เดือน โดยข้อ 4 และ 5 เป็นมาตรการที่ไต้หวันใช้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี