เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2562 ทำเนียบรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ครั้งที่ 4/2562
นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะกรรมการและเลขานุการ นบข. เปิดเผยว่าที่ประชุมรับทราบชดเชยเงินค้างจ่ายเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการชะลอเก็บเกี่ยวข้าวและเงินชดเชยอื่นๆ ซึ่งมีเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียน 28,792 ราย รัฐบาลชดเชยกว่า 180 ล้านบาท เป็นเงินค้างจ่ายการผลิตข้าวปี 2559/2560 จะนำเสนอ คณะรัฐมนตรี(ครม.)วันที่ 28 พฤษภาคมนี้หรืออย่างช้าสัปดาห์หน้าเพื่อจ่ายเงินให้แก่เกษตรกรตามที่ขึ้นทะเบียนขอชดเชยชะลอการขายข้าว
นอกจากนี้ รับทราบผลการผลิตข้าวปีนี้ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอว่ามี 34 ล้านตันข้าวเปลือกเพิ่มจากปีที่ผ่านมา 1-2 ล้านตันข้าวเปลือก ขณะที่ปริมาณความต้องการเพื่อส่งออกและบริโภคและอุตสาหกรรม รวมถึงการเก็บสต๊อกไว้ใช้ในประเทศจะมีถึง 32.48 ล้านตันข้าวเปลือก และคาดว่าจะส่งออกได้ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านตัน
พร้อมกันนี้ที่ประชุมได้รับทราบการระบายสต๊อกข้าวเก่าที่กระทรวงพาณิชย์ระบายตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมากว่า 17.4 ล้านตัน หมดแล้ว แต่ยังคงเหลือบางส่วนเล็กน้อยที่เกิดจากการรับส่งมอบข้าว ซึ่งขณะนี้องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.)และองค์การคลังสินค้า(อคส.) อยู่ระหว่างเร่งรัดทางคดี เพื่อให้ข้าวที่เหลือเล็กน้อยหมดโดยเร็ว
รวมทั้งรับทราบแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรปลูกข้าวฤดูการผลิตปี 2562/2563 ที่จะดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลไม่ว่าสินเชื่อชะลอการขาย สินเชื่อระบายข้าว ชดเชยดอกเบี้ยภาคเอกชนในการเก็บข้าวในสต๊อก ซึ่งจะเป็นแนวทางเดิมช่วยเหลือเกษตรกรช่วงที่ผ่านมา โดยที่ประชุมมอบหมายให้กระทรวงเกษตรฯ ไปเชิญชวนเกษตรกรมาลงทะเบียน อีกทั้งยังจัดตั้งคณะทำงาน 28 ชุด สำรวจและรับฟังความเดือดร้อนเกษตรกรทุกพื้นที่ เพื่อนำปัญหาต่างๆ เสนอที่ประชุม โดยนายกรัฐมนตรีได้ย้ำให้ทุกหน่วยงานเร่งเคลียร์งานเดิม เพื่อเตรียมชี้แจงรัฐบาลใหม่
ร.ต.ท.เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ที่ประชุม นบข. รับทราบเกี่ยวกับแผนระบายข้าวที่ อคส.และ อ.ต.ก.เสนอทั้งข้าวเก่า และข้าวอยู่ระหว่างตรวจเช็คข้อมูลทางบัญชี 940,000 ตัน ทั้ง 2 หน่วยงาน พบเอกสารต่างๆ ข้าวจำนวนดังกล่าวแล้ว และบางส่วนระบายออกไปก่อนหน้านี้แล้วคาดว่า ข้าวที่เหลือจะระบายหมดจากบัญชีได้อย่างช้า 31 กรกฎาคมนี้
ทั้งนี้ หากข้าวค้างในประเทศหมดจากสต๊อกเรียบร้อยก็จะเป็นสัญญาณดีต่อประเทศไทย เพราะขณะนี้ความต้องการข้าวในตลาดโลกยังมีสูง แต่ปัญหาค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ทำให้ข้าวไทยราคาสูงกว่าคู่แข่ง แต่ยังเชื่อว่าผู้บริโภคต่างๆ ยังเห็นว่าข้าวไทยคุณภาพสูง ช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาส่งออกข้าวเกือบ 4 ล้านตันข้าวเปลือก โดยช่วงนี้การส่งออกข้าวไทยอาจชะลอตัว แต่ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะส่วนใหญ่มีความต้องการข้าวไทยสูงช่วงก่อนปลายปี
“คาดว่าปีนี้ไทยน่าจะส่งออกข้าวได้ถึง 9 ล้านตัน แต่อาจจะไม่ถึง 10 ล้านตัน แม้ผลผลิตปีนี้ตามที่กระทรวงเกษตรฯ ระบุไว้จะมีถึง 34 ล้านตันข้าวเปลือก มากกว่าปีที่ผ่านมา แต่ขณะนี้คาดการณ์ลำบาก เพราะเวลาที่เหลือไม่มั่นใจปัญหาภัยธรรมชาติอาจทำให้ปริมาณข้าวเปลือกมากหรือน้อยก็ได้”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี