"คมนาคม"สั่งการรถไฟฯกลับไปรวบรวมข้อมูลจากกรมบังคับคดีค่าโง่"โฮปเวลล์" เพื่อสรุปข้อมูลภายใน 2 สัปดาห์ ด้านคลังแนะให้จัดทำข้อมูลหนี้ให้ชัดเจนก่อนหาแนวทางการชดเชย เผยนายกฯสั่งตั้งคณะทำงานหาตัวคนที่เกี่ยวข้องทำผิดให้ชัดเจน
31 พ.ค.62 นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยเกี่ยวกับความคืบหน้ากรณีที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) จ่ายชดเชยแก่ บริษัท โฮปเวลล์(ประเทศไทย) จำกัด จากการบอกเลิกสัญญา เป็นเงิน 12,000 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 25,000 ล้านบาทว่า ขณะนี้กระทรวงคมนคมได้มอบหมายให้การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) กลับไปรวบรวมข้อมูลตัวเลขค่าเสียหายการฟ้องร้องในทุกรายการจากหน่วยงานของกรมบังคับคดีว่ามีรายละเอียดข้อมูลและวงเงินในช่วงใดบ้างก่อนสรุปข้อมูลอีกครั้งภายใน 2 สัปดาห์ ด้านตัวแทนจากกระทรวงการคลัง ได้รับรายงานพร้อมมีข้อแนะนำเรื่องการจัดทำข้อมูลภาระหนี้ให้ชัดเจนก่อนกลับมาประชุมร่วมกันเพื่อวางแนวทางชดเชยอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามในส่วนของแนวทางการชดเชยนั้นต้องรอตัวเลขภาระหนี้ที่ชัดเจนก่อน โดยทางกระทรวงคมนาคมต้องยึดโยงตามคำสั่งศาลที่สั่งให้ชำระหนี้พร้อมดอกเบี้ยทั้งหมดภายใน 6 เดือนนับตั้งแต่มีคำพิพากษา นอกจากนี้หลังจากจัดการเรื่องภาระหนี้แล้วจะตั้งคณะทำงานสืบสวนตัวบุคคลต่อไป
ด้านแหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม ระบุว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีการสั่งการให้กระทรวงคมนาคมเร่งรัดการจัดตั้งคณะทำงานสืบสวนเพื่อตัวบุคคลถึงความผิดในเรื่องดังกล่าว ส่วนความผิดจะมีโทษย้อนหลังหรือไม่ยังยืนยันไม่ได้เพราะไม่มีการชี้มูลทุจริตที่ชัดเจน เพียงแต่กรณีโฮปเวลล์ฝ่ายเอกชนฟ้องร้องว่ารัฐบาลบอกเลิกสัญญาโดยมิชอบ และศาสมีคำสั่งตัดสินว่าการกระทำดังกล่าวของรัฐขัดกับข้อกฎหมายต้องมีการชดใช้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี