นายสิโรจ ประเสริฐผล กรรมการ บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงข้อพิพาทกรณี คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ใช้อำนาจตาม ม.44 สั่งปิดเหมืองอัคราฯว่า บริษัทกำลังติดตามความชัดเจนว่าบุคคลใดจะมาเป็นรมว.อุตสาหกรรมคนใหม่ เพื่อขอหารือในรายละเอียดอย่างจริงใจเพื่อยุติการฟ้องที่เกิดขึ้น
สำหรับเงื่อนไขของการเจรจานั้นจะต้องมีทั้งประเด็นการชดเชยความเสียหายให้กับเหมืองอัคราตลอดเวลาที่ถูกสั่งปิด และประเด็นการให้ข้อยืนยันว่าหากคิงส์เกตจะลงทุนในไทยต่อไปต้องไม่ถูกรัฐบาลสั่งปิดโดยไร้ข้อพิสูจน์ตามวิทยาศาสตร์เช่นในปัจจุบัน เพราะปี 2558 เคยถูกสั่งปิด 45 วัน และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2
มีรายงานแจ้งว่า สำหรับข้อพิพาทดังกล่าวเกิดจากความขัดแย้งระหว่างชาวบ้านกับเหมืองแร่ทองคำ ของ บริษัทอัครา ไมนิ่ง เรียกร้องให้ยุติการทำเหมืองโดยอ้างปัญหาสุขภาพและสิ่งแวดล้อมจากการทำเหมืองแร่จนมีการออกคำสั่งตาม ม.44 ให้ระงับการทำเหมือน ต่อมา บริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดทเต็ด ลิมิเต็ด ซึ่งเป็น ผู้ถือหุ้นใหญ่ ของบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ออกแถลงการณ์ให้ทางการไทยยกเลิกระงับกิจการ รวมถึงเรียกร้องค่าชดเชย แต่ไม่มีความคืบหน้า เป็นเหตุให้ทาง คิงส์เกต ยื่นฟ้องรัฐบาลไทยเข้าสู่กระบวนการระงับข้อพิพาทตามกระบวนการอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ ภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย (TAFTA)
แหล่งข่าวจากผู้ประกอบการเหมือง กล่าวว่า ประเมินตัวเลขความเสียหายของเหมืองอัครา โดยวัดจากปริมาณสำรองแร่ทอง 8.9 แสนออนซ์ คิดเป็นวงเงินปริมาณ 37,020 ล้านบาท และเงิน 8.3 ล้านออนซ์ คิดเป็นวงเงินประมาณ 3,984 ล้านบาท ซึ่งสามารถผลิตได้ในช่วง 8-10 ปีข้างหน้า รวมมูลค่า 41,004 ล้านบาท นอกจากนี้ปีปริมาณสำรองที่คาดว่าจะมี ประกอบด้วย ทอง 162 ล้านออนซ์ เงิน 28.4 ล้านออนซ์ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้คิงส์เกตได้ยื่นต่ออนุญาโตฯให้พิจารณาแล้ว
นอกจากนี้ ยังมีความเสียหายอื่นๆด้วย อาทิ การเยียวยาพนักงาน เพราะจนถึงปัจจุบันทางรัฐบาลก็ยังไม่มีข้อยุติทางวิทยาศาสตร์ว่า เหมืองอัคราปล่อยสารพิษจนกระทบต่อสุขภาพของประชาชนรอบเหมือง แต่ใช้อำนาจตาม ม.44 สั่งปิดเหมือง ทางคิงส์เกต จึงต้องมีการฟ้องร้องว่าไทยละเมิดการค้าเสรีระหว่างไทยกับออสเตรเลีย
“จากการหารือกับคิงส์เกตทราบว่าบริษัทพยายามขอเจรจากับรัฐบาลไทย โดยเฉพาะกระทรวงอุตสาหกรรมหลายครั้ง โดยเฉพาะช่วงที่เตรียมร้องต่ออนุญาโตฯ แต่รัฐบาลส่งนายพสุ โลหารชุน ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม หารือแทน ทำให้ไม่มีความคืบหน้า”แหล่งข่าวกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี