นางจิรลาวัณย์ ตั้งกิจเวทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์(บล.) ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ กล่าวว่าภาพรวมธุรกิจบริหารความมั่งคั่งของไทยโดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าที่มีความมั่งคั่งระดับสูง (High Net Worth Individuals – HNWIs) มีการเติบโตในอัตราที่สูงและคาดว่าจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพและโอกาสทางธุรกิจ ซึ่งไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ (SCB Julius Baer) บริษัทร่วมทุนระหว่างธนาคารไทยพาณิชย์ และจูเลียส แบร์ พร้อมที่จะให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าHNWIs ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ
บริษัทจึงได้จัดทำ “รายงานความมั่งคั่งในประเทศไทย ปี 2562 (Wealth Report Thailand 2019)” ซึ่งนับเป็นฉบับแรกที่จัดทำโดยไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ เพื่อศึกษาตลาด HNWIs ในประเทศไทยโดยเก็บข้อมูลจากลูกค้ากลุ่ม HNWIs จำนวน 351 คน นำมาสู่การคาดการณ์ในช่วงเวลา 5 ปี (พ.ศ. 2558-2563) กลุ่มลูกค้า HNWIs ในประเทศไทยจะมีสินทรัพย์เพิ่มขึ้น 9.9% ต่อปี ทำให้มีมูลค่าโดยรวมกว่า 401,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ปัจจัยที่หนุนการเติบโตนี้ คือการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของความมั่งคั่งครัวเรือน เศรษฐกิจดีขึ้น รวมไปถึงการที่ราคาของอสังหาริมทรัพย์ และหุ้นที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยคาดว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย น่าจะแตะที่ระดับ 1,800 จุดได้ในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ และประเทศไทยจะยังมีฐานะทางการเงินการคลังที่แข็งแกร่ง
รายงานดังกล่าวยังระบุอีกว่ากลุ่ม HNWIs ในประเทศไทยกว่า 56% สนใจการสร้างความมั่งคั่ง (Wealth Creation) มากกว่าการคงการรักษาระดับความมั่งคั่ง (Wealth Preservation) ซึ่งมีสัดส่วนอยู่ที่ 41% โดยลูกค้ากลุ่มนี้มีรูปแบบการจัดพอร์ตในลักษณะเดียวกับกลุ่ม HNWIs ในต่างประเทศ คือ นิยมลงทุนในสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่อง เช่น หุ้น พันธบัตร และกองทุน แต่สินทรัพย์ส่วนใหญ่ยังเป็นการลงทุนในประเทศ โดยนักลงทุนกลุ่ม HNWIs ในไทยลงทุนในอสังหาริมทรัพย์คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 7% และการลงทุนทางเลือกอื่นๆ อยู่ที่ 6% ขณะที่นักลงทุนกลุ่ม HNWIs ในต่างประเทศจะลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และการลงทุนทางเลือกอื่นๆ ในอัตรา 17% และ 9% ตามลำดับ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ายังคงมีโอกาสที่จะขยายตัวได้อีกมาก
พฤติกรรมและทัศนคติของนักลงทุนเฉพาะกลุ่มที่ให้ความเห็นในการจัดทำแบบสำรวจครั้งนี้ แบ่งเป็น 3 กลุ่ม 1.กลุ่มผู้ประกอบการมิลเลนเนียล (Millennial Entrepreneur) อายุไม่เกิน 40 ปี ให้ความสำคัญกับบริการทางการเงินดิจิทัล และการเพิ่มพูนความมั่งคั่ง (Wealth Creation) มากกว่าการคงระดับรักษาความมั่งคั่ง (Wealth Preservation) อย่างไรก็ดี เมื่อเทียบกับอีก 2 กลุ่ม กลุ่มผู้ประกอบการมิลเลนเนียลกลับมีความเข้าใจน้อยที่สุดว่าจะเข้าถึงโอกาสการลงทุนในต่างประเทศได้อย่างไร
2.กลุ่มนักลงทุนเต็มตัว (Mature Investors) อายุระหว่าง 41 - 60 ปี เป็นกลุ่มที่มีความรู้ความเข้าใจมากที่สุดถึงรูปแบบความหลากหลายของสินทรัพย์การลงทุนในต่างประเทศเมื่อเทียบกับอีกสองกลุ่ม
3.กลุ่มคนเกษียณไฮเทค (Techie Retiree) อายุมากกว่า 60 ปี เป็นกลุ่มที่คุ้นเคยกับการลงทุนในต่างประเทศน้อยที่สุดและต้องการผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินการลงทุนมืออาชีพ มาช่วยจัดการบริหารการเงินให้ประเด็นที่น่าสนใจ คือ กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ใช้งานโซเชียลมีเดียมากที่สุดใน 3 กลุ่ม
“ธุรกิจบริหารความมั่งคั่งระดับสูงของไทยมีการเติบโตอย่างมากและแนวโน้มนี้จะยังคงมีต่อเนื่องเพราะประชากรไทยมีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้น เรามองเห็นศักยภาพอีกมากในตลาดนี้เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ทั่วภูมิภาค เนื่องจากกลุ่ม HNWIs มีความรู้มากขึ้นและเงื่อนไขทางกฎหมายและนโยบายเอื้อต่อการลงทุนและบริหารจัดการความมั่งคั่งได้สะดวกขึ้น แต่ยังไม่ได้รับบริการอย่างเพียงพอ และมีความต้องการลงทุนในต่างประเทศอยู่มาก” นางจิรลาวัณย์กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี