นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยภายหลังพิธีลงนามความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ว่าด้วยการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ) ณ ศาลากลางจังหวัดบึงกาฬ โดยมีนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคมและนายบุนจัน สินทะวง รมว.โยธาธิการและขนส่งแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เป็นประธานในพิธีว่าเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2562 คณะรัฐมนตรี(ครม.)มีมติอนุมัติให้กรมทางหลวงดำเนินการโครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ –บอลิคำไซ) พร้อมอนุมัติการจัดทำและลงนามร่างความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวว่าด้วยการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ)โดยมอบให้รมว.คมนาคม เป็นผู้แทนรัฐบาลไทยลงนามความตกลง
สำหรับ ในส่วนของงบประมาณการก่อสร้างนั้นฝ่ายไทยใช้เงินงบประมาณดำเนินโครงการ แบ่งเป็นค่าก่อสร้าง 2,553 ล้านบาท ค่าควบคุมงาน 77 ล้านบาท รวมค่างานที่ฝ่ายไทยต้องรับผิดชอบ 2,630 ล้านบาท ส่วนฝ่าย สปป.ลาว ใช้เงินกู้จากสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) แบ่งเป็นค่าก่อสร้าง 1,256 ล้านบาท ค่าควบคุมงาน 44 ล้านบาท รวมค่างานที่ฝ่าย สปป.ลาว ต้องรับผิดชอบ 1,300 ล้านบาท รวมค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างโครงการ 3,930 ล้านบาท คาดว่าจะใช้ระยะเวลาดำเนินการก่อสร้างประมาณ 36 เดือน
สะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ - บอลิคำไซ) มีจุดเริ่มต้นโครงการบริเวณจุดตัดทางหลวงหมายเลข 222 (กม.123+430) อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ และจุดสิ้นสุดโครงการที่ กม.16+340.580 (จุดตัดถนนสาย 13) เมืองปากซัน แขวงบอลิคำไซ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว รูปแบบทางหลวงของโครงการเป็นถนนขนาด 4 ช่องจราจร โดยจะมีช่องจราจรกว้างช่องละ 3.50 เมตร ไหล่ทางกว้าง 2.50 เมตร ในเขตทาง 60 เมตร โดยถนนฝั่งไทยยาว 12.13 กิโลเมตร และถนนฝั่งลาวยาว 2.86 กิโลเมตร
รูปแบบสะพานข้ามแม่น้ำโขงเป็นแบบสะพานคานขึงคอนกรีตอัดแรงรูปกล่อง ขนาด 2 ช่องจราจร มีไหล่ทางและทางเท้าโดยมีความยาว
ช่วงข้ามแม่น้ำโขง 810 เมตร และทางลาดขึ้น-ลงสะพานทั้ง 2 ฝั่ง รวมความยาวสะพานทั้งหมด 1,350 เมตร มีด่านควบคุมทั้ง 2 ฝั่งประเทศ และจุดสลับทิศทางจราจรอยู่ในฝั่งสปป.ลาว
ทั้งนี้เมื่อโครงการเสร็จจะช่วยกระตุ้นการขยายตัวด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และท่องเที่ยวระหว่างไทยกับลาว รวมถึงทำให้การ
ขนส่งสินค้าจากไทยไปสู่ตลาดจีนตอนใต้คล่องตัวขึ้นโดยเฉพาะยางพาราที่เป็นพืชเศรษฐกิจของจังหวัดบึงกาฬที่เปิดเส้นทางท่องเที่ยว 3 ประเทศ ใน 1 วัน “ไทย-ลาว-เวียดนาม” หลังการคมนาคมเชื่อมโยงถึงกันได้อีกด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี