นายสุเมธ องกิตติกุล ผู้อำนวยการวิจัยด้านนโยบายการขนส่งและโลจิสติกส์ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) เปิดเผยว่าความคืบหน้าผลศึกษาโครงสร้างค่าโดยสารรถไฟฟ้านั้นขณะนี้ได้ส่งให้กรมการขนส่งทางบกไปแล้ว โดยเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการเปรียบเทียบต้นทุนและค่าโดยสารปัจจุบันแต่ยังไม่ได้รวมค่าโดยสารในอนาคตและรถไฟฟ้าสายใหม่ที่จะเปิดในอนาคต เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม และโครงการรถไฟฟ้าสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ซึ่งในส่วนของแผนการศึกษาเรื่องค่าโดยสารรถไฟฟ้าในอนาตตนั้นจะลงรายละเอียดเรื่องการกำหนดสัญญาสัมปทานที่ระบุเรื่องการควบคุมค่าโดยสาร ให้เอกชนคู่สัญญานำไปปฏิบัติต่อไป
ทั้งนี้ ราคาค่าโดยสารที่เหมาะสมตามสภาพเศรษฐกิจและกำลังการซื้อคือ 30-40 บาท เพื่อให้ผู้มีรายได้น้อยเข้าถึงได้ด้วย และการยกเลิกค่าแรกเข้าเมื่อเชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชนสาธารณะถือเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลยังไม่สามารถเชื่อมต่อระบบตั๋วร่วม (Common Ticket) ให้เข้ากับทุกระบบการเดินทางได้ โดยมองว่าการควบคุมค่าโดยสารนั้นรัฐบาลมีส่วนสำคัญอย่างมาก หากผู้ดูแลระดับนโยบายมองเห็นความสำคัญและความเดือดร้อนของประชาชน การอุดหนุนค่าโดยสารเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายก็จะเกิดขึ้นได้ไม่ยาก สำหรับค่าโดยสารรถไฟฟ้าในปัจจุบันนั้นพบว่าค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ พบว่าค่าโดยสารรถไฟฟ้าต่อเที่ยวของคนไทยอยู่ที่ 67.4 บาท ขณะที่ประเทศสิงคโปร์อยู่ที่ราว 25.73 บาท และฮ่องกงอยู่ที่ 46.5 บาท ถือเป็นราคาที่แพงกว่าสิงคโปร์มากกว่า 1 เท่าตัว
ด้านแหล่งข่าวกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า แนวทางการจัดการเรื่องระบบค่าโดยสารร่วม (Common Fare) ส่วนหนึ่งก็คือการนำระบบตั๋วร่วมมาใช้เพื่อลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าลง โดยจะมอบให้ TDRI ไปศึกษาลงรายละเอียดในหัวข้อต่างๆเพื่อกำกับดูแลค่าโดยสารให้เหมาะสมกับความเป็นจริง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี