นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพิจารณาโอนทรัพย์สินฯ กรมการขนส่งทางราง ว่าในที่ประชุมทางกรมการขนส่งทางราง และสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.)ได้พิจารณารายละเอียดทรัพย์สิน โดยมีประมาณ 121 รายการที่เป็นอุปกรณ์ที่ให้ในสำนักงาน ซึ่งที่ประชุมได้ตรวจสอบรายการและทั้ง 2 หน่วยงานได้ยืนยันแล้วว่าถูกต้อง
ส่วนงบประมาณค่าใช้จ่าย เช่น เงินเดือน งบการดำเนินงาน งบลงทุนฯที่สนข.ต้องโอนให้กับกรมการขนส่งทางรางนั้น จากตัวเลขเบื้องต้น ณ วันที่ 15 พฤษภาคม 2562 เป็นจำนวน 26 ล้านบาท แต่เนื่องจากระบบบัญชีจะต้องมีการตัดทุกวันที่ 30 ของเดือน คณะกรรมการจึงให้นำข้อมูลมาเสนอเพื่อพิจารณาเห็นชอบอีกครั้ง
ในส่วนของบุคลากรปัจจุบันมี 44 อัตรา และเป็นข้าราชการ 4 อัตรา รวม 48 อัตรา โดยเป็นอัตรากำลังที่โอนย้ายมาจากสำนักงานโครงการของ สนข. รวมถึงอ.ก.พ.กระทรวงคมนาคม ได้อนุมัติเพิ่มอัตรากำลังให้อีก 20 อัตราในเบื้องต้น เนื่องจากหลักเกณฑ์ของการเพิ่มอัตราราชการต้องเกลี่ยบุคลากรภายในสังกัดกระทรวงก่อน ส่วนการหาสำนักงานนั้นก็อยู่ระหว่างการหาพื้นที่เบื้องต้นอาจจะหาเช่าพื้นที่สำนักงาน ส่วนงานศึกษาต่างๆของสนข.ก็ได้มอบหมายให้ไปพิจารณาว่าโครงการไหนเกี่ยวข้องกับระบบรางก็ให้โอนถ่ายภารกิจและงานศึกษานั้นมายังกรมการขนส่งทางรางด้วย
นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมการขนส่งทางราง กล่าวว่า อัตรากำลังของกรมการขนส่งทางรางเบื้องต้นกำหนดไว้ที่ 203 คน แบ่งออกเป็น ข้าราชการ 170 คน และพนักงานราชการอีก 27 คน ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้อนุมัติย้ายมาจากสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) จำนวน 44 คน จากกระทรวงคมนาคม 20 คน และพนักงานราชการอีก 4 คน ที่เหลือต้องขออนุมัติโอนย้ายเพิ่มเติม ส่วนความคืบหน้าการหาพื้นที่จัดตั้งอาคารสำนักงานของกรมการขนส่งทางรางนั้นเนื่องจากในอนาคตกระทรวงคมนาคมอาจต้องย้ายไปอยู่บริเวณศูนย์คมนาคมพหลโยธิน ซึ่งกรมการขนส่งทางรางก็จะต้องไปจัดตั้งอยู่ในพื้นที่นั้นทำให้ระหว่างนี้จะต้องเร่งหาอาคารสำนักงานเพื่อเช่าชั่วคราว
สำหรับการเร่งจัดทำร่างกฎหมายลูกเพื่อบังคับใช้ภายหลัง พ.ร.บ.กรมการขนส่งทางรางจะประกาศใช้ก็คาดว่าไม่เกินปีนี้ โดยรายละเอียดของกฎหมายลูกจะเป็นรายละเอียดย่อยของ พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว ประมาณ 40-50 ฉบับ เช่น รายละเอียดกฎระเบียบของการสอบใบขับขี่รถไฟ, กฎระเบียบของการเก็บค่าใช้บริการรางรถไฟ เป็นต้น ซึ่งในบางฉบับจะต้องมีผลบังคับใช้ 90 วัน หรือ 180 วัน หลังจากพ.ร.บ.กรมการขนส่งทางรางมีผลบังคับใช้ นอกจากนี้ ยังมีแนวคิดที่จะเปิดให้เอกชนเข้ามาเดินรถมากขึ้น เช่น รถไฟทางคู่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.)ในบางเส้นทาง เมื่อพัฒนาเป็นรถไฟทางคู่แล้วเพิ่มขีดความสามารถรองรับการเดินรถได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี