ขนส่งทางบกปิ๊งไอเดียเล็งทำคิวอาร์โค้ดติดเสื้อวินมอเตอร์ไซค์ เพื่อให้ผู้ใช้บริการตรวจสอบความถูกต้อง ทั้งคนขับและผู้ได้รับใบอนุญาตต้องตรงกัน
20 มิ.ย.62 นางจันทิรา บุรุษพัฒน์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า สำหรับประเด็นที่มีข้อสงสัยในเรื่องของบริการรถจักรยานยนต์รับจ้าง (วิน) ในเส้นทางตรอกซอกซอยหรือพื้นที่ที่มีผู้ใช้บริการจำนวนมาก ส่งผลให้มีผู้ประกอบอาชีพรถจักรยานยนต์รับจ้างมากขึ้น ทำให้ยากต่อการควบคุมและการจัดระเบียบ ขณะที่ประชาชนมีความต้องการระบบขนส่งสาธารณะที่มีความปลอดภัย แต่ปัจจุบันนี้ยังไม่มีหน่วยงานใดเป็นเจ้าภาพในการลงไปสำรวจหรือจัดระบบขนส่งสาธารณะอื่น ๆ เข้าไปทดแทน
อย่่างไรก็ตาม การจะจัดระบบขนส่งสาธารณะประเภทอื่น ๆ เช่น รถโดยสาร มินิบัส สองแถวเข้าไปในระบบ ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าปัญหาการจราจรติดขัดเป็นปัจจัยสำคัญ ทำให้บริการจักรยานยนต์รับจ้างเกิดขึ้น ส่วนการจะจัดระบบรถขนส่งสาธารณะเพิ่มต้องดูให้เหมาะสม เพราะอาจจะยิ่งส่งผลกระทบทำให้ปัญหาการจราจรติดขัดเพิ่มมากขึ้น
นางจันทิรา กล่าวว่า กรมฯ มีแนวคิดที่จะทำระบบให้ประชาชนเข้ามาเป็นส่วนร่วมตรวจสอบผู้ประกอบอาชีพมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เนื่องจากปัจจุบันกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีวินมอเตอร์ไซค์มากกว่า 5,500 วิน มีผู้ขับรถประกอบอาชีพเกือบ 200,000 คน กำลังเจ้าหน้าที่ตรวจสอบอาจมีไม่เพียงพอ
"ดังนั้น กรมฯมีแนวคิดจะริเริ่มโครงการนำระบบไอทีมาช่วยให้ประชาชนมีส่วนร่วมตรวจสอบ โดยทำระบบคิวอาร์โค้ดติดกับเสื้อวินมอเตอร์ไซค์ เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถสแกนตรวจสอบและทราบข้อมูล เพื่อให้ผู้ขับรถจริงกับหมายเลขเสื้อที่รับอนุญาตตรงตามที่ภาครัฐจัดระเบียบควบคุมจำนวนผู้ขับรถแต่ละวินนำมาขึ้นทะเบียนไปแล้วนั้น หากพบว่าข้อมูลไม่ตรงกันผู้ใช้บริการสามารถร้องเรียนมาที่หมายเลขสายด่วน 1584 ให้เจ้าหน้าที่ ผู้ตรวจการกรมการขนส่งทางบกเข้าไปตรวจสอบได้ โดยระบบคิวอาร์โค้ดนี้อาจมีความเป็นไปได้ที่จะขยายผลไปใช้ในระบบรถแท็กซี่สาธารณะติดตั้งภายในรถด้วย"นางจันทิรา กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี